Trending News

Subscribe Now

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้องค์กรด้วยพลังของคำว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้องค์กรด้วยพลังของคำว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

Article | Entrepreneur

ทำไมการพูดแค่คำว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” ถึงมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานมากถึง 3.5 เท่า!?

บทความจาก Harvard Business Review พูดถึงการวิจัยหนึ่งของ Center for Talent Innovation ที่บอกกับเราว่า ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ของครอบครัว หรือแม้แต่ในที่ทำงาน และเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในสังคมนั้นแล้ว พวกเขาจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทุ่มเทเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่าจากเดิม

แต่เรื่องนี่น่าสนใจคือ จากการศึกษาด้วย EY Belonging Barometer กับพนักงานบริษัท 1,000 คนพบว่า มีพนักงานมากถึง 40% ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่ทำงานเลย!

ดังนั้น จากข้อมูลนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า หากผู้บริหารเพิ่มความใส่ใจในตัวทีมงานให้มากขึ้น หรือเพื่อนร่วมงานทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เราอาจจะได้พนักงานที่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นก็เป็นได้

อะไรล่ะ คือวิธีการทำให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วม?

คำตอบคือการพูดคุยและถามเขาว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” นั่นเอง

เพราะการทักทาย และการถามไถ่ คือหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เพื่อนร่วมงาน คนใกล้ชิด หรือแม้แต่คนในครอบครัวรู้สึกว่าเขามีตัวตนและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นอยู่ นอกจากนี้การถามว่า “มีอะไรให้ช่วยไหม” ยังเป็นอีกหนึ่งประโยคที่ทำให้คนรอบตัวรู้สึกดีได้เช่นกัน

การถามไถ่หากมีเทคนิคเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อย ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้น เช่น การลด Bias ของเราด้วยการเปิดใจให้กว้าง เมื่อถามเขาแล้วว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” “มีอะไรให้ช่วยไหม” หรือถ้าเป็นตัวเขาเองที่เดินเข้ามาเล่าให้ฟัง เราต้องเปิดใจและรับฟังเขาด้วย ต้องพยายามไม่โน้มน้าว หรือล้มล้างสิ่งที่เขาพูดเพื่อให้เป็นไปตามสิ่งที่เราเชื่อ ขอเพียงแค่ฟัง หรือเชื่อว่าผู้พูดมีความตั้งใจที่ดี สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนเล่ารู้สึกว่าเรารับฟังเขาอย่างจริงใจ และทำให้เขารู้สึกว่าเป็นส่วนสำคัญของเราด้วย

ทั้งนี้หากระหว่างการพูดคุย ผู้ฟังฟังไม่ชัดหรือไม่เข้าใจในเนื้อหา ก็สามารถทักท้วงหรือถามได้ การถามว่า “ช่วยลงรายละเอียดให้หน่อย” หรือ “ช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้ฟังหน่อย” ก็จะช่วยให้เขารู้สึกถึงความใส่ใจว่าเราตั้งใจฟังได้เป็นอย่างดี

สุดท้ายคือทำอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญแค่ชั่วครั้งชั่วคราว การทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม และมีตัวตนร่วมกับเราอยู่ตลอดเวลา

สรุปคือ การทักทายและเปิดใจรับฟังจะมีส่วนช่วยให้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือคนในครอบครัวรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความทุ่มเทให้กับกลุ่มมากขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นวันนี้หัวหน้าคนไหนคิดว่าตัวเองไม่ค่อยได้ฟังคนอื่นหรือลูกทีม หรือถามไถ่ถึงสาระทุกข์สุกดิบของเพื่อนน้อยลง ถึงเวลาที่คุณต้องเพิ่มสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้นแล้วล่ะครับ!

เรื่อง: สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม Founder of CREATIVE TALK

Related Articles

เลือดข้นคนจาง – เต้ยสอนอะไรเราอยู่

“แล้วมาพูดอะไรเอาตอนนี้ รู้ตัวบ้างไหมว่าความน่าเชื่อถือของตัวเอง มันเหลือแค่ไหนแล้ว ตอนนี้พี่ไม่รู้จะเชื่ออะไรเต้ยได้แล้ว” เต้ย ตัวละครจาก “เลือดข้นคนจาง” ที่ใช้อารมณ์นำการกระทำทุกอย่าง ทั้งอารมณ์โกรธ รัก หลง…

Article | May the Quote

เรียนรู้จาก Lisa BLACKPINK ในการสร้าง Personal Branding ที่มีแฟนทั่วโลก

ทุกวันนี้แทบไม่มีใครที่ไม่รู้จักศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่มีชื่อว่า BLACKPINK อีกแล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามวงการศิลปินเกาหลีมาก่อน อาจจะขอแนะนำสั้น ๆ ว่า วง BLACKPINK ประกอบด้วยนักร้องสาว…

Article | Business

บริหารทีมยังไงให้รอด กับ 3 สไตล์หัวหน้าที่ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน

‘หัวหน้า’ แค่พูดคำนี้ขึ้นมาก็รู้สึกหนาวแล้ว ตำแหน่งสำคัญที่แบกรับความคาดหวังจากหลายภาคส่วน เป็นบทบาทที่อยู่ตรงกลางระหว่างลูกน้องกับองค์กร

Article | Business | Living