Trending News

Subscribe Now

เพื่อนร่วมงาน 4 ประเภทที่คุณต้องมีและอีก 1 ประเภทที่ควรหนีให้ห่าง

เพื่อนร่วมงาน 4 ประเภทที่คุณต้องมีและอีก 1 ประเภทที่ควรหนีให้ห่าง

Article | Living

การที่คนเราจะมีความสุขกับการทำงานหรือไม่ มักมาจากปัจจัย 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน คือ เนื้องาน เจ้านาย และเพื่อนร่วมงาน การมีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีเจ้านายที่คอยผลักดัน มีส่วนให้เรามีความพึงพอใจในการทำงานและมีไฟในการสร้างผลงานให้ดีขึ้นได้ 

ลองสังเกตรอบตัวคุณวันนี้ที่มีเพื่อนมากมาย เพื่อนแบบไหนที่ควรรักษาไว้ และเพื่อนแบบไหนที่ควรหนีให้ห่าง วันนี้เราขอเสนอเพื่อนร่วมงาน 5 ประเภทที่คุณมักเจอในที่ทำงาน พร้อมวิธีการรับมือเพื่อสร้างความสุขในการทำงานในทุกวันไปด้วยกัน


เพื่อนรัก (The Bestie) 

ทุกคนจะต้องมีอย่างน้อย 1 คนในที่ทำงานที่คุณสามารถแชร์เรื่องราวทั้งดีและร้ายในการทำงานได้ คนที่เป็นเหมือนเครื่องปลอบประโลมใจยามคุณท้อใจจากการทำงาน คอยรับฟังปัญหา หรือบางครั้งเขาเหล่านี้อาจมีส่วนร่วมในชีวิตส่วนตัวคุณด้วยซ้ำ หลายๆ ครั้ง คนนี้จะช่วยให้ Feedback ในแบบที่คุณควรจะได้ได้อย่างจริงใจที่สุด ตามหลักจิตวิทยาแล้ว เขาคือคนที่คอยโอบกอดคุณในฐานะคนคนหนึ่ง และนั่นมีความหมายกับคุณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมการทำงานที่มีแต่การแข่งขันอันดุเดือด

หากคุณเพิ่งย้ายที่ทำงานแล้วเริ่มทำงานแบบ Hybrid หรือ Remote แน่นอนการหาเพื่อนรักในที่ทำงานใหม่เป็นเรื่องท้าทายยิ่ง เพราะเพื่อนร่วมงานใหม่ของคุณอาจจะต่างคนต่างประชุมเสร็จแล้วก็ปิดจอไปทำงานส่วนตัวของตัวเอง ทำให้ไม่มีโอกาสพูดคุยชิทแชทผ่าน Zoom คุณอาจลองหากลยุทธ์เข้าหาพวกเขาก่อน เช่น ลองทักใครสักคน ค่อยๆ หาทางผูกสัมพันธ์ ไม่แน่เพื่อนร่วมงานใหม่บางคนของคุณอาจจะอาศัยอยู่ไม่ไกลจากคุณ คราวหน้าที่ได้คุยงานกัน พวกคุณอาจจะนัดตามร้านกาแฟใกล้ๆ บ้านเพื่อหารือเรื่องงานก็ได้


เพื่อนให้คำปรึกษา (The Mentor)

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งงานใด คุณต่างก็ต้องการ “ที่ปรึกษา” กันทุกคน พวกเขาจะช่วยให้คุณฝ่าฟันกับความท้าทายด้านการทำงาน หรืออาจจะช่วยหา Connection ใหม่ๆ ให้คุณด้วย ถ้าคุณยังไม่มีคนนี้ล่ะก็ ลองหาคนที่คุณชื่นชมและเป็นคนที่คุณคิดว่าจะเรียนรู้จากเขาได้ คนส่วนใหญ่จะรู้สึกชื่นชมยินดีเมื่อมีคนมาขอคำปรึกษา

ในโลกการทำงานแบบ Hybrid คุณอาจต้องลองทักถามคนที่คุณอยากได้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว ขอเวลาเขาสักหน่อย ถามด้วยว่าเขาเต็มใจจะให้คำปรึกษาคุณไหม อย่าลืมว่าเพื่อนให้คำปรึกษาที่ดีจะแนะนำเรื่องที่จะช่วยให้คุณก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้


เพื่อนฝ่ายบุคคล (The HR Friend)

ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลจะต้องเก็บรักษาความลับหลายๆ อย่างของบริษัท แต่คุณควรจะเป็นเพื่อนกับคนแผนกนี้ไว้ ไม่ใช้เพื่อสืบราชการลับ แต่เพื่อที่คุณจะสามารถขอคำปรึกษาเรื่องที่พนักงานควรจะรู้ได้แบบไม่ต้องคิดไปเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นน้องใหม่ในการทำงานแบบ Remote การผูกมิตรกับฝ่าย HR ไว้เป็นเรื่องดี คุณอาจจะลองนัดพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบไม่เป็นทางการมากนักกับพวกเขา แน่นอนว่าฝ่ายบุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานแบบ Remote ให้คุณค่ากับการรับฟังเรื่องราวของพนักงาน เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นความสัมพันธ์แบบ Win-Win


เพื่อนผู้เฝ้าประตู (The Gatekeeper)

การเข้าถึงตัวผู้บริหารระดับสูงอย่างประธานบริษัท หรือ General Manager เป็นเรื่องยาก แต่อย่าลืมว่าผู้บริหารเหล่านั้นมีคนที่คอยดูแลตารางของพวกเขาไว้ บางทีอาจจะเป็นเลขา หรือ อาจจะเป็นพนักงานต้อนรับของบริษัท คนเหล่านี้จะต้องพบเจอผู้คนจากหลากหลายแผนกซึ่งรวมถึงเหล่าผู้บริหารด้วย เพื่อนผู้เฝ้าประตูคนนี้จะช่วยหาเวลา 10 นาทีให้คุณได้เจอกับเจ้านายที่คุณอยากจะพิชไอเดียใหม่ๆ ให้เขาฟังเป็นการส่วนตัวได้อย่างแน่นอน 

การจะผูกสัมพันธ์กับคนนี้ คุณต้องเข้าหาเขาแบบเนียนๆ และจริงใจ พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคุณเป็นเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ อย่าได้ทำให้เขาเสียความรู้สึกอย่าง ใช้ประโยชน์แล้วก็ทำเมินไม่สนใจเด็ดขาด

นอกจากเพื่อนร่วมงาน 4 ประเภทที่คุณควรมีไว้ข้างกายแล้ว คุณยังต้องรู้จักกับเพื่อนร่วมงานอีกหนึ่งประเภทที่จะทำให้การทำงานของคุณไม่ราบรื่น มาดูกันว่า คุณจะรับมือกับคนแบบนี้ในที่ทำงานได้อย่างไร


เพื่อนอันธพาล (The Bully)

หากคุณพบเจอเพื่อนร่วมงานที่มีลักษณะอันธพาล ก้าวร้าว และคอยเสียดสีผู้อื่น แต่ก็ต้องทำงานร่วมกับเขาแบบเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะก็ พูดคุยกับพวกเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น พยายามหลีกเลี่ยงการให้ความสนิทสนมกับคนประเภทนี้เด็ดขาด และไม่ต้องกลัวที่จะอยู่ให้ห่างจากพวกเขาหากคุณเริ่มรู้สึกว่าบางเรื่องมันเกินไปแล้ว

ไม่ว่าคุณจะเจอกับเรื่องราวความก้าวร้าวจากคนแบบนี้ในรูปแบบไหน หากคุณประเมินสถานการณ์และนโยบายของบริษัทชัดเจนแล้ว คุณต้องแจ้งเรื่องนี้กับฝ่าย HR แต่ก่อนเรื่องจะไปถึงฝ่ายบุคคลบางทีคุณอาจต้องลองประนีประนอมกับอีกฝ่ายก่อน โดยใช้วิธีการนัดคุยส่วนตัวในเชิงที่เป็นมืออาชีพ อธิบายให้อีกฝ่ายเห็นภาพว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกับคุณและการทำงานอย่างไรบ้าง บางครั้งคนที่ก้าวร้าวใส่คนอื่นก็ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เขาทำส่งผลต่อการทำงานของคนอื่นอย่างไร แต่ถ้าการพูดคุยนี้ไม่สำเร็จ คุณค่อยแจ้ง HR หรือ เจ้านายของคุณ โดยเน้นให้เห็นว่าเรื่องนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานแค่ไหน ขวัญกำลังใจของทีมงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และเรื่องแบบนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง 


สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหน คุณต่างต้องเจอคนทั้ง 5 ประเภทนี้ ดังนั้นคุณควรจะรู้วิธีเข้าหาและหลีกเลี่ยงคนแบบไหน เพื่อที่คุณจะได้มีความสุขในการทำงาน เมื่อคุณมีความสุขในการทำงานแล้ว ก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีที่สุดของคุณ และกลายเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดขององค์กรเช่นกัน 


ที่มาของข้อมูล –  4 types of coworkers you definitely need—and one you absolutely don’t

Related Articles

Meta แล้วยังไงต่อ? ชวนฟัง Speakers CTC พูดถึงเรื่อง Metaverse

การเปลี่ยนชื่อจาก facebook มาเป็น Meta กลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต้องหันมาให้ความสนใจ ทั้งในเรื่องของบริษัท Social Media ยกระดับองค์กรใหม่แบบเต็มตัว รวมไปถึงความตื่นตัวต่อโลก Metaverse

Article | Business

แนะนำ What If? หนังสือที่มุ่งตอบคำถามโง่ๆ จนได้ดี

“What if?” (จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้า…) หนังสือที่รวบรวมคำถามแปลกประหลาด หลุดโลก หรือคำถามที่เราคาดไม่ถึงไว้ด้วยกัน โดยคนตอบหรือผู้ที่เขียนหนังคือเล่มนี้ก็คือ แรนดัลล์ มุนโร…

Living | Morning Call | Podcast

6 เรื่องที่เราควรทบทวนตัวเองทุกสิ้นปี

ช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไปในแต่ละปีนั้น มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่ผ่านเข้ามา ยังคงอยู่ และจากไป บ้างทิ้งร่องรอย บ้างขีดข่วน บ้างโอบกอด

Article | Living