Trending News

Subscribe Now

6 เรื่องแห่งอนาคตของ AI และ Machine Learning ที่องค์กรต้องรู้

6 เรื่องแห่งอนาคตของ AI และ Machine Learning ที่องค์กรต้องรู้

Article | Business

หากไม่อยากให้องค์กรของคุณต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ลองมาทำความรู้จักกับอนาคต 6 ด้านของ Artificial Intelligence และ Machine Learning ที่องค์กรควรรู้

ถ้าเป็นเมื่อหลายปีที่แล้วคำว่า AI (Artificial Intelligence) และ ML (Machine Learning) อาจเป็นคำศัพท์ที่คนนอกวงการไอทีไม่คุ้นเคยเท่าไหร่นัก แต่ทุกวันนี้สองคำนี้ได้กลายเป็นคำศัพท์ที่ผู้คนทั่วไปในวงกว้างล้วนรู้จัก

เพราะเราต่างใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับเทคโนโลยีเหล่านี้ทั้งแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว มีงานวิจัยที่พบว่า กว่า 77% ของอุปกรณ์ที่เราใช้ในชีวิตนั้นประกอบไปด้วยการทำงานของ AI ตั้งแต่การจัดการ playlist ใน Netflix , Spotify ไปจนถึงนางพยาบาลในโลกเสมือนอย่าง “Molly” และ “Angel” ที่ช่วยชีวิตคนและยังช่วยลดต้นทุนให้กับองค์กรได้ด้วย

ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของ AI และ ML ทำให้หลายองค์กรต้องการปรับ AI และ ML เข้ามาใช้กับการทำงานมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสิ่งที่องค์กรจำเป็นต้องรู้ ก็คือ ‘แนวโน้ม 6 ด้านที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้’ ดังต่อไปนี้


1. การใช้ AI และ Machine Learning ที่เพิ่มขึ้น 

รายงานจาก Deloitte เปิดเผยว่าองค์กรกว่า 52% กำลังเพิ่มแผนที่จะใช้ AI ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในด้านต่างๆ  โดยจะนำไปใช้กับการวิเคราะห์ธุรกิจ การประเมินความเสี่ยง การวิจัยพัฒนา และการคิดวิเคราะห์งบประมาณ เป็นต้น

และข้อมูลการสำรวจจาก KPMG ก็พบว่าบริษัทใน Global 500 นั้น มีแผนจะเพิ่มอัตราการใช้ AI และ ML ภายในองค์กรตั้งแต่ 50% – 100% ภายในสามปีข้างหน้า


2. ความเข้าใจง่ายของ AI

แม้ว่า AI หรือ Artificial Intelligence จะกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนเริ่มใช้กันทั่วไปแล้ว แต่ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของ AI คือ ความไว้ใจ เพราะหลายๆ องค์กรประสบปัญหาว่าคนในองค์กรนั้นไม่ไว้ใจการทำงานของ AI ซึ่งมันค่อนข้างเป็นเรื่องยากที่ผู้คนในองค์กรจะไว้ใจการตัดสินใจของสิ่งที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจดี ดังนั้นเพื่อเป็นการนำ AI และ ML มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด องค์กรอาจต้องหาคนที่สามารถนำสองสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับองค์กรได้ พร้อมกับลดความซับซ้อนลง และเรื่องนี้ยังเป็นการบ้านสำหรับผู้ผลิต AI และ ML ที่จะต้องสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ให้เข้าใจง่ายขึ้น 


3. ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและความปลอดภัยด้านข้อมูลสูงขึ้น

ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินชนิดหน่ึง องค์กรต่างๆ จึงต้องรักษาข้อมูลที่มีอยู่ให้ดีขึ้น ซึ่งการมี AI และ ML เข้ามาร่วมทำงานด้วย จึงหมายถึงจำนวนของข้อมูลมหาศาลที่ต้องดูแลเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มากมายเหล่านี้อาจหมายถึงความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลด้วย

ซึ่งกฏต่างๆ อย่าง GDPR และ California Consumer Privacy Acts ยังถือเป็นตัวบีบบังคับที่ทำให้การทำผิดพลาดเพียงนิดเดียวด้านข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นบทเรียนราคาแพงได้ 

องค์กรต่างๆ จึงจำเป็นต้องมี นักวิทยาศาสตร์ และนักวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดูแลข้อมูลให้ชัดเจนและรอบคอบมากขึ้น


4. ความทับซ้อนของ AI และ IoT

แม้ว่า AI และ IoT (Internet of Things) จะเป็นคนจะเรื่องกัน แต่ปัจจุบันเราอาจจะหาเส้นกั้นระหว่าง AI กับ IoT ได้ยากขึ้น เพราะเทคโนโลยีต่างๆ เริ่มใช้ทั้งสองสิ่งร่วมกันเพื่อทำให้เกิดการทำงานที่ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ ก็คือ AI เปรียบเสมือนสมอง และ IoT ก็คือ เส้นประสาทต่างๆ ดังนั้นความสามารถของ AI ในการรวบรวมข้อมูลให้ IoT ก็จะทำให้ระบบของ IoT ฉลาดขึ้นไปด้วย 


5. การใช้งาน Augmented Intelligence ที่เพิ่มขึ้น 

Augmented Intelligence คือ การรวมความฉลาดของมนุษย์และ AI เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทั้งของมนุษย์และ AI ซึ่งทาง Gartner บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยและให้คำปรึกษาระดับโลก เคยทำวิจัยและคาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี 2023 นั้น 40% ของโครงสร้างและทีมปฏิบัติการในองค์กรใหญ่ๆ จะมีการนำระบบอัตโนมัติที่ทำงานด้วย AI มาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 


6. Hyper Automation

สุดท้าย Hyper Automation หรือการรวมกันของเครื่องมืออัตโนมัติที่จะสนับสนุนการทำงานได้อย่างรวดเร็วช่วยย่นระยะการทำงานขั้นตอนต่างๆ ลง ซึ่ง Hyper Automation ต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI และ ML ในการช่วยคิด วิเคราะห์ และประมวลผลให้ระบบอัตโนมัติตัดสินใจได้หลากหลายขึ้น 

ซึ่งการทำงานของระบบดังกล่าวจะไม่ได้ช่วยดูแลเรื่องประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลองค์กรและเพิ่มศักยภาพในการทำงานของคนในองค์กรให้ดียิ่งขึ้น 

ทั้งในปัจจุบันและอนาคต การพัฒนาด้าน Artificial Intelligence และ Machine Learning ที่ก้าวกระโดดนี้ จะเข้ามาช่วยยกระดับการทำงานภายในองค์กรให้ดีขึ้น การเรียนรู้แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเหล่านี้สามารถช่วยให้องค์กรนำสิ่งต่างๆ ไปปรับใช้กับโครงสร้างการทำงานได้ถูกจุดมากขึ้นได้ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ที่มาของข้อมูล6 Emerging AI and Machine Learning Trends to Watch in 2022


เรื่อง: แพรว – ณัฐธยาน์ รุ่งรุจิไพศาล นักเขียนตัวเปี๊ยกหัวโต ผู้รักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ วิ่งไล่ผีเสื้อในทุ่งลาเวนเดอร์

Related Articles

6 เทคนิคลดความเครียดช่วยเพิ่มโฟกัสมากขึ้น จากโค้ชของผู้บริหาร Google

ความเครียด และความฟุ้งซ่านมักเป็นปัญหาที่ทำให้เราโฟกัสกับงานไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงหลายครั้งปัญหาเหล่านี้ก็แก้ได้ง่าย ๆ เพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิดและสร้างนิสัยของตัวเองใหม่

Article | Living

S M L วิธีตั้งเป้าหมายในชีวิตอย่างมีทิศทางและสำเร็จได้จริง

เริ่มต้นตั้งเป้าหมาย เพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายอย่างมีทิศทาง เราจำเป็นต้องมีการกำหนดจุดที่เราอยากไปถึง เพราะถ้าเราไม่ทำแบบนั้น เราจะกลายเป็นเพียงคนที่ทำงานอย่างหนัก แต่ไม่มีเป้าหมาย หรือเป็นแค่คนขยันคนหนึ่ง อุปกรณ์ อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่…

Article

มาเรียนรู้กับ “CX Champion” ถอดรหัสผู้นำเกมด้าน Customer Experience ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าอย่างไรให้สำเร็จ [1 ก.ค. นี้]

เทรนด์ของ CX (Customer Experience) กำลังเติบโตเป็นอย่างมาก บริษัทและธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวมาอยู่บนดิจิทัลและพึ่งพาเทคโนโลยีกันมากขึ้น ลูกค้าเองก็คาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์จากแบรนด์/ธุรกิจที่ดีในรูปแบบออนไลน์ โดยจากการสำรวจของ Zendesk…

Article | Digital Marketing