เมื่อช่องทางการขายออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจช่วงที่ผ่านมา เราจึงเห็นแบรนด์ ธุรกิจทั้งรายใหญ่ รายย่อยต่างต้องปรับตัวสร้างกลยุทธ์ในการขายช่องทางออนไลน์ รวมถึงจากเดิมที่เคยขายสินค้าของแบรนด์ก็ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น แบรนด์ GQ ที่หันมาทำหน้ากากอนามัยโดยความถนัดด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมผลิตออกมาในแบบของตัวเอง
แต่หลายคนต่างเริ่มตั้งคำถามว่า แล้วหลังจากที่รัฐบาลเริ่มปลดล็อกบางธุรกิจหรือผ่อนปรนบางมาตรการ สถานการณ์ของ E-Commerce จะเป็นอย่างไร Creative Talk ชวนคุณเมฆ-นิธิ สัจจทิพวรรณ Co-Founder and CEO MyCloudFulfillment คลังสินค้าออนไลน์ที่มีระบบอำนวยความสะดวก การจัดการตั้งแต่พื้นที่จัดเก็บสินค้า แพ็คสินค้ากระทั่งการจัดส่ง เพื่อให้เจ้าของมีเวลาได้โฟกัสกับธุรกิจอย่างเต็มที่ โดยเราชวนคุณเมฆมาเล่าถึงการทำธุรกิจ E-Commerce ในช่วงโควิด-19 รวมถึงคาดการณ์สิ่งที่ต้องรับมือหลังสถานการณ์นี้คลี่คลายมากขึ้น
ภาพรวมและสถานการณ์ของธุรกิจ MyCloudFulfillment เป็นอย่างไรในช่วงก่อนโควิด-19 และปัจจุบัน
ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา MycloudFulfillment เติบโตขึ้นอย่างมากครับผม จากเดิมก่อนโควิดมีเราออเดอร์อยู่ประมาณเดือนละ 45,000 ออเดอร์ จนขยับมาที่ประมาณ 80,000 ออเดอร์ถึง 150,000 ออเดอร์ แต่ว่าเดือนล่าสุดนี้ ตกอยู่ที่ประมาณ 250,000 ออเดอร์ กระโดดแบบกระโดดเลยครับ ซึ่งก็เกิดขึ้นจากโควิดร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ลูกค้าเราหลายคนก็เป็นลูกค้าที่เปลี่ยนไปเหมือนกัน จากเดิมเป็นลูกค้ารายย่อยแต่พอโควิดรายได้หายไปเยอะเหมือนกันครับ ปกติรายย่อยออเดอร์จะอยู่ที่ 300 ออเดอร์ต่อเดือนครับ ส่วนลูกค้ารายใหญ่หลักหมื่นออเดอร์ต่อเดือน ช่วงโควิด-19 เราก็มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น แล้วก็หลายหลายตั้งแต่ลูกค้าอย่าง เครื่องสำอาง อาหารเสริมและแฟชั่น
การปรับตัวของธุรกิจ E-Commerce
จากที่ผมเห็นนะครับ บางเจ้าจากเดิมที่อาจจะขายแค่หน้าร้านเฉยๆ เขาก็หันมาทำไลฟ์ขายของ รวมถึงเดิมช่องทางการขายหน้าร้าน 17 ช่องทางก็มาขายเป็นไลฟ์แทนซึ่งเขาก็ทำได้ดี ข้อมูลยอดจออนไลน์ของเจ้านี้ปรกติก่อนโควิด-19 เดือนละแค่ประมาณ 10,000 ออเดอร์ พอปรับตัวเข้ามาขายออนไลน์ยอดก็โตมาถึงเกือบ 30,000 ออเดอร์ พอเขาปรับตัวทำได้ดี เขาก็สามารถเอาทีมเอาเงินลงไปทุนไปขยายเพิ่มช่องทางแล้วก็ลองอะไรใหม่ๆ ได้ในสถานการณ์นี้
พฤติกรรมของผู้บริโภคหลังรัฐบาลปลดล็อกดาวน์และผ่อนปรนมาตรการบางธุรกิจมากขึ้น
แบ่งออกเป็นสองกลุ่มครับคือ คนที่กลัวกับคนที่เลิกกลัวแล้ว คนที่กลัวไลฟ์สไตล์เขาจะเปลี่ยนจากเดิมทีเขาออกไปเที่ยวเจอเพื่อนสังสรรค์กินข้าวไรนอกบ้านตอนนี้ก็จะ Introvert ขึ้นอยู่บ้านมากขึ้นไม่เจอคน ใช้วิธีสื่อสารทางออนไลน์ ทำให้สินค้าบางอย่างหรือการใช้ชีวิตบางอย่างมันจะยังอยู่ในชีวิตเขาอยู่ เช่น เจลล้างมือ หน้ากากอนามัยหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
ส่วนคนที่เลิกกลัว ออกไปข้างนอกหลังจากรัฐผ่อนปรนมาตรการ อย่างเช่น คนเดินทางไปต่างจังหวัดหรือเริ่มเดินทางไปทำงาน สินค้าบางอย่างที่เคยหายไปก็จะกลับมาด้วยเช่นกันอย่างสินค้าแฟชั่น รองเท้าส้นสูง สูท ชุดว่ายน้ำ ครีมกันแดด อาจจะได้มาแล้วเพราะเขาจะได้ออกไปข้างนอก ส่วนสินค้าพวกกล้อง รองเท้า พวกนี้เป็นสินค้าที่แบบช่วงที่ม่ดีก็จะร่วง แต่ช่วงที่กลับมาก็จะดีขึ้นเลย เป็นสินค้าที่ต้องมองให้ดีว่าเมื่อไหร่จะกลับมาได้แบบเต็มๆ
แต่ถึงอย่างนั้นผมคิดว่าหลังโควิด-19 คลี่คลาย E-Commerce มีสินค้าบางอย่างกลับมาแล้วก็ไม่กลับมาแล้วเช่น เครื่องสำอาง เราต้องยอมรับว่าซื้อออนไลน์ก็สะดวกแต่ก็ยังไงลิปสติกก็ควรต้องลอง รองพื้นก็ต้องมาแตะหน้าเพื่อหาเฉดสีที่ตรง เราจะเห็นว่าบางอย่างที่ขายบน E-Commerce ไม่ได้เวิร์คขนาดนั้น แค่ทดแทนในช่วงที่ขาดแคลนแต่ว่าซื้อหน้าร้านดีกว่า ขณะเดียวกันสินค้าบางอย่างที่เราเคยซื้อหน้าร้านแล้วต้องปรับมาเป็นออนไลน์พวก ผงซักฟอก น้ำดื่ม ที่มีน้ำหนักมากๆ พฤติกรรมคนซื้อเขาจะเรียนรู้แล้วว่าสั่งออนไลน์สะดวกกว่า ไม่ต้องไปแบก เข้าคิวจ่ายเงินท้ายสุดนี้ความกลัวเป็นสิ่งที่เป็นตัวค่าหลักของเศรษฐกิจเลยก็ว่าได้เหมือนกัน
Lesson Learned ที่สำคัญต่อธุรกิจ E-Commerce ในสถานการณ์นี้
เราอยู่ในจุดที่เราเรียกว่า ความไม่แน่นอนเยอะมาก เราเห็นได้ชัดเลยจากเหตุการณ์นี้ ความไม่แน่นอนไม่ได้เกิดจากการ Disruption ทางเทคโนโลยีหรือการค้า แต่เกิดจากโรคภัยที่สามารถฆ่าคนได้นั่นแปลว่าวันข้างหน้าอาจจะเกิดขึ้นและแย่ขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ทุกคนประสบกับภาวะโลกร้อนหรือไฟไหม้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็ได้รับผลกระทบที่ว่านี้หมด เพราะฉะนั้นความไม่แน่นอนและความเท่าเทียมถึงกันหมดจะทำให้คนรู้สึกว่าทั้งการทำธุรกิจหรือใช้ชีวิตเราต้องอยู่ในจุดที่พร้อมทิ้งและเริ่มต้นใหม่เสมอ
ธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้ดีในช่วงนี้เพราะเขาคือคนที่กล้าทิ้งสิ่งเดิมที่เคยทำได้ ไม่เป็นไรฉันจะเริ่มต้นใหม่ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ
จากเดิมธุรกิจขายสินค้าแฟชั่นรองเท้า แต่สถานการณ์นี้คนไม่ออกจากบ้านเจ้าของก็ตัดสินใจไปทำ Face Sheld แทน แต่ถ้ายังยันยืนยันขายแฟชั่นต่อแล้วไม่ได้เป็นเจ้าใหญ่พอ ธุรกิจอาจจะไปต่อไม่ได้ครับ
คำว่า Disruption เกิดขึ้นแล้ว ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้ว ฉะนั้นผมคิดว่าคุณต้องทิ้งสิ่งเดิมไปบ้างปรับตัวเรียนรู้ใหม่ Re Learn We Learn เป็นเรื่องที่สำคัญมากในตอนนี้ แล้วการเรียนรู้จะถี่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะบางทีเราไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การเตรียมตัวเพื่อการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี แล้วก็สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากสถานการณ์นี้คือการรักษาเงินสดดีที่สุดเพราะสุดท้ายแล้วเราไม่ได้มีช็อตเดียวในการเล่นจุดเดียว เราไม่ได้เล่นโป๊กเกอร์โยนเงินก้อนเดียวในไพ่ใบเดียว การทำธุรกิจเราต้องเผื่อไว้หลายๆ ใบหน่อยเพราะว่าในสิ่งที่เราทำอยู่ในวันนี้อาจได้จังหวะที่ดีมากๆ แต่วันข้างหน้าก็อาจจะไม่ดีได้เช่นกันอย่าง สายการบินหรือธุรกิจ tourism เป็นธุรกิจที่ดีมากในช่วงหนึ่งกลายเป็นว่าตอนนี้กลุ่มคนเหล่านี้ตกงาน ต้องทำอาชีพอื่นๆ แทน เราอยู่ในจุดที่จากสูงสุดสู่ต่ำสุดและต่ำสุดสู่สูงสุดได้เสมอ
เรื่อง : ณิชา พัฒนเลิศพันธ์
ภาพ : MyCloudFulfillment