จุดกำเนิดที่พูดเรื่องความรักไม่ใช่ว่าอินเลิฟแต่อย่างใด แต่ได้รับหนังสือจากน้องคนหนึ่งชื่อ น้องส้ม ศรีตลา ชาญวิเศษ เขียนหนังสือที่ชื่อว่า Love never Fail ไม่มีความรักครั้งไหนที่สูญเปล่า บอกตรง ๆ ว่าช่วงหลังไม่ได้อ่านหนังสือความรักมานานมากแล้ว เพราะว่าไม่ได้มีประเด็นเรื่องความรัก จนกระทั่งได้หนังสือจากน้องส้ม เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมคิดว่าไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีความรักไม่ว่าจะอยู่ในสเตทใดก็ตาม อินเลิฟ ปัปปี้เลิฟ สงสัยว่าเขารักเราหรือเปล่า อกหัก รักคุด ลืมเขาไม่ลง ผมว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะ เพราะเขาพูดถึงความรักในทุกแบบ เป็นหนังสือที่ผมนิยามความรักอย่างมีเหตุผล
โดยปกติแล้วเราไม่สามารถอธิบายความรักอย่างมีเหตุผลได้ ฉันอยากทำอย่างโน่น อย่างนี้ เพราะฉันรักเธอ โดยไม่ต้องมีเหตุผล หนังสือเล่มนี้พยายามอธิบายให้มันมีเหตุผลในหลาย ๆ จุด เชื่อมโยงเรื่องอารมณ์ เรื่องความรู้สึก ผมว่าเป็นหนังสือน่าสนใจไม่ว่าคุณจะมีความรักในแบบใด ๆ ก็ตาม
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของหนังสือนี้คือ เขาตั้งใจไม่เรียงบทให้มันไปตามลำดับของความรัก ไม่ได้เรียงว่าเริ่มต้นต้องจีบ ต่อไปเป็นอะไร จะบอกรักเขาดีไหม จนถึงเลิกกัน ทุกอย่างเป็นแรนดอม ผู้เขียนตั้งใจจะแรนดอมไม่อยากให้เราเลือกอ่านเฉพาะรักในช่วงที่เรากำลังอยู่ แต่อยากให้เข้าใจทุกช่วงเวลาของความรัก
ผมไม่ได้เชียวชาญเรื่องความรัก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคนสองคน ว่าเราจะรักกันหรือไม่รัก รู้สึกดี ๆ ต่อกัน ใช่ว่าสังคมที่เราอยู่มีเราแค่สองคน แต่ก็ยังมีคนอื่น ๆ อีกมากมายเลยล้อมรอบเรา คุณพ่อ คุณแม่ เพื่อน เจ้านาย ต้องมาเกี่ยวกับความรักของเรา แต่จะเกี่ยวแบบไหน บางคนมาเกี่ยวแล้วช่วยสนันสนุนเราทำให้ความรักเราดีขึ้น แต่บางคนที่มายุ่งเกี่ยวแล้วทำให้ความรักเราแย่ลงก็เป็นได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่เราสองคน ถ้าเราหนักแน่น เชื่อใจซึ่งกันและกัน ผมว่ามันอยู่ที่ตรงนี้เท่านั้นเอง หลายคนพยายามที่จะมองหาความรักที่สมบูรณ์ มองหารักแท้ หาคนที่ดี ก่อนอื่นจะบอกว่า ก่อนที่คุณจะรักใครได้ คุณต้องหยุดรักตัวเองก่อน ผมคิดว่าอย่างนั้น (ความเห็นส่วนตัว)
บางคนอาจจะบอกว่าเราต้องรักตัวเองก่อนซิ บางทีเรารักตัวเองมากไป ไม่เคยคิดที่จะรักคนอื่นเลย มันก็ยากที่จะได้ความรักกลับมา ผมก็เลยคิดว่าบางคนหาความรักก็คิดถึงตัวเราเองก่อน คนนี้การศึกษาดีไหม หน้าตาดีหรือเปล่า หรือว่านิสัยดีไหมสำหรับเรา คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าให้เขาเหมาะกับเรา โดยที่บางครั้งเราก็ไม่ได้มองว่าเราจะเป็นผู้ให้ความรักกับเขาด้วยเหมือนกัน
ผมคิดว่าต้องเริ่มจากการที่รู้จักรักคนอื่นก่อน ส่วนตัวผมคิดว่าเรามักจะคิดว่าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา เหมือนเราไปเลือกซื้อของ ก็หาที่มันเหมาะ ตรงกับที่เราต้องการ มันก็ไม่แปลกที่เราจะเอาความชอบ ความต้องการเป็นที่ตั้ง ผมมักจะชอบคิดว่ามันยากนะที่จะหาคนที่สมบูรณ์ มนุษย์เราไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปหมด บางครั้งเราเห็นคนหล่อ หน้าตาดี แต่สุดท้ายกลับไปบ้านเขาอาจจะเป็นคนสกปรก ไม่ทำความสะอาดห้อง ขี้เกียจล้างจาน
ที่่สำคัญคือคุณสามารถรับความไม่สมบูรณ์แบบของเขาได้มากขนาดไหน ถ้าคุณเจอคนที่คุณสามารถรับความไ่ม่สมบูรณ์แบบของเขา คนนั้นน่าสามารถเป็นหนึ่งในคู่ของคุณ เพราะคุณสามารถรับข้อบกพร่องของเขาได้ อย่าไปมองแต่ข้อดี เวลาจีบกันก็มองแต่ข้อดี ต้องมองว่าคุุณสามารถรับข้อเสียของเขาได้ไหม บางทีข้อเสียของเขาอาจจะเป็นข้อดีของเราก็ได้ ตรงนี้มันน่าจะเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้รักมันดีได้ นอกจากเราจะมองหาข้อดีอย่างเดียวเราก็ต้องมองด้านที่ไม่สมบูรณ์แบบด้วย
ผมดูหนังเรื่อง มูแรงรูจ เป็นหนังเพลง พูดถึงประโยคหนึ่งว่า
“The Greatest thing you will ever learn is to love and belove in return” สิ่งที่ดีที่สุดในการเรียนรุ้ชีวิตคือการได้รักใครสักคนและการได้รับความรักตอบกลับมาด้วย
ย้อนกลับมาที่หนังสือ ตอนที่ผมได้หนังสือมา ผมเกิดความสงสัย ผมไม่ได้อินกับทุกบท ผมอินกับบางบท รู้สึกว่าความรักบางแบบเราไม่ค่อยได้เจอกับตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ผมเริ่มสงสัยหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ว่า เวลาที่เรารู้สึกเกิดความรัก เรามีความสุข รู้สึกหัวใจพองโตไหม? หรือเวลาเราโดนเขาหักอกมา หรือพูดจาไม่ดีใส่เรา เรารู้สึกแย่ หัวใจเรามันจะรู้สึกฟีบลง รู้สึกแย่ มันเกิดที่หัวใจ แล้วความรักมักจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปหัวใจ ทำไม ผมก็นั่งคิด และถามน้องส้ม
จริงๆ แล้วความรักมันเกิดที่ไหน ที่หัวใจเหรอ ไม่ใช่ที่สมอง ทำไมตัวแทนความรักถึงเป็นรูปหัวใจ แล้วสัญลักษณ์รูปหัวใจ มันก็ไม่ใช่หัวใจจริง ๆ หน้าตาไม่เหมือนหัวใจจริง ๆ สักหน่อย ถามน้องเขาว่ารู้ไหม น้องเขาก็ไม่รู้
เลยเป็นที่มาว่า งั้นผมลองไปค้นหาดูซิว่าที่มาของสัญลักษณ์รูปหัวใจ ปรากฎว่าไม่มีใครรู้ที่มาที่แท้จริง แต่ว่าเขาสันนิฐานว่า ที่มาของสัญลักษณ์รูปหัวใจที่เขาใช้กัน มาจากต้นไม้ต้นหนึ่งในสมัยกรีก ที่ชื่อว่า Silphium ต้นไม้ที่มาจากแถบลิเบียในปัจจุบัน และเป็นต้นไม้ที่มีเฉพาะในแถบเมดิเตอร์เรเนียนกับแอฟริกาเท่านั้น
ทำไมต้องเป็นซิลเฟียมและมีรูปร่างหัวใจแบบนี้? ผลของซิลเฟียมลักษณะคล้ายรูปหัวใจ มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักได้อย่างไร?
ในสมัยก่อนต้นไม้นี้ผลของมันถือว่าสามารถรักษาโรคได้สารพัด แต่ที่สำคัญคือ สามารถช่วยคุมกำเนิดได้ เขาบอกว่าผู้หญิงถ้าอยากจะคุมกำเนิดในสมัยนั้นให้ดื่มน้ำผลไม้ของต้นซิลเฟียมก็สามารถคุมกำเนิดได้ เขาถือว่าต้นซิลเฟียมเป็นวิธีการคุมกำเนิดและโบราณที่สุดที่เขาค้นพบเจอ ในเมื่อมันเป็นต้นไม้ที่ช่วยในการคุมกำเนิดได้ เขามีนิยามว่า เป็นต้นไม้ที่สามารถรักษาโรคคลั่งรักได้ มันก็เลยเป็นสัญญลักษณ์ของเซ็กซ์และความรัก