Trending News

Subscribe Now

Chatbot ฉลาดขึ้นได้ด้วย Ai และ Machine Learning ได้อย่างไร

Chatbot ฉลาดขึ้นได้ด้วย Ai และ Machine Learning ได้อย่างไร

Article | Technology

เมื่อพูดถึง “แชตบอท” (Chatbot) แล้ว เราอาจจะนึกถึง software ที่พูดคุยสนทนาได้ รวมไปถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถตอบคำถามต่าง ๆ ของเราด้วยภาษาที่เข้าใจได้ โดยผ่านช่องทางการพิมพ์ การพูดคุย โต้ตอบกับเรา เหมือนที่เราพูดคุยกับคนอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน ผ่าน applications หรือโปรแกรม chat ต่างๆ แต่ในปัจจุบันเริ่มมี AI (Artificial intelligence) เข้ามาเป็นตัวช่วยในการพัฒนาให้ Chatbot สามารถตอบโต้กับคนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราจึงมาพูดคุยกันต่อในเรื่องของ AI ช่วยให้ Chatbot ฉลาดขึ้นได้อย่างไร กับ ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย Founder & CEO BOTNOI Group


แต่ก่อนที่จะลงลึกไปกับ How to สร้าง Chatbot ให้ฉลาดด้วย AI เรามาทำความรู้จัก ดร.วินน์ และ Botnoi Group กันก่อน 

ดร. วินน์ เล่าว่า ตอนนี้ดูแล Botnoi Group อยู่ ทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน คือ

  1. ระบบตอบโต้อัตโนมัติ chatbot
  2. การให้คำปรึกษา และพัฒนา AI
  3. Data Science การดึงเอา Data มาวิเคราะห์หา insights หา solutions ให้แต่ละองค์กร

รวมถึงให้ความรู้ด้าน Technology, AI, Data science ให้กับประชาชน ผู้สนใจ และองค์กรต่างๆได้รู้จัก Chatbot และ AI


Botnoi เป็น Deep tech company อธิบายง่ายๆคือ ที่เราได้ยินคำว่า Tech Company นั้น เป็นบริษัทที่สร้าง Software แล้วนำมาใช้ แต่ Deep tech company จะไม่ได้หยุดที่การสร้าง แต่จะต้อง ศึกษา วิจัย พัฒนาจนเชี่ยวชาญ แล้วสร้าง Software ขึ้นมา แล้วนำไปใช้ หลังจากนั้นก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อไปอีก ยกตัวอย่าง Product ที่ Botnoi ทำก็จะเป็น ระบบ Chatbot, ระบบสังเคราะห์เสียง, รวมไปถึง พยาบาล AI ที่ช่วยเรื่องการคัดกรองผู้ป่วย เป็นต้น ซึ่ง Botnoi group เองก็ยังคงพัฒนา ต่อยอดไปอีก เช่น พัฒนา AI ที่รองรับภาษาท้องถิ่น หรือสามารถเปลี่ยนสำนวนภาษาตามอารมณ์ ตามบริบทต่างๆได้ เป็นต้น

โดยใน Botnoi Group เองเราให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนามาก พนักงานในบริษัทเองก็เป็นนักวิจัยมากกว่า 50% จากทั้งหมด ส่วนผลงานที่สร้างชื่อเสียงก็คือ Botnoi ที่ได้รางวัลชนะเลิศจากประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่ถึง Botnoi จะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง และประสบการณ์จากหลากหลายเวลา ก็ยังไม่หยุดพัฒนา ทั้งเรื่องของความหลากหลายทางภาษา เช่น คำที่เขียนเหมือนกันแต่ความหมายต่างกัน เพราะภาษามักมีความซับซ้อนเฉพาะทาง เราจึงยังต้องปรับปรุง, แก้ไข และ modify อยู่เสมอ

ดร.วินน์ อธิบายเพิ่มเติมถึงหลักการของการทำงานของ AI ใน chatbot โดยยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เรามีเด็กแรกเกิดหนึ่งคน (AI) และมีคุณพ่อ คุณแม่ อาจารย์ คอยมาสอน train ให้เด็กค่อยๆ ฉลาดขึ้น (เมื่อเด็กรับข้อมูลมา มีคนคอยสอน เด็กก็จะเข้าใจ และฉลาดขึ้น)

คุณวินน์ยังเล่าให้ฟังต่อว่า ทำไมเราถึงควรมี chatbot เพราะการสื่อสารจะมีทั้งหมด 2 รูปแบบ คือ one-way communication และ two-way communication 


โดย one-way communication จะเป็นการสื่อสารทางเดียว ข้อดีก็คือสามารถสื่อสารให้ถึงกลุ่มคนหมู่มากได้ แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องถ้าผู้ฟังเกิดข้อสงสัย ก็จะไม่สามารถถามคำถาม เพื่อหาคำตอบได้เลย ในขณะที่ two-way communication ยกตัวอย่างเป็นเวลาเราไปพบแพทย์ พยาบาล เวลาที่เรามีคำถาม เราสามารถถามเพื่อให้ได้คำตอบในสิ่งที่เราสงสัย แต่ข้อจำกัดคือ เราไม่มีบุคลากรมากพอที่จะมาตอบคำถาม หรือสื่อสารกับเราแบบ call center ได้ 

ดังนั้น chatbot คือการสื่อสารแบบ two-way communication ที่สามารถใช้กับคนจำนวนมากได้ เรียกได้ว่าเป็นอนาคตของการโต้ตอบ ที่แก้ไขข้อจำกัดได้ทั้ง one-way communication และ two-way communication ด้วย

และในสถานการณ์โควิด-19 botnoi บอทน้อยก็ได้ช่วยบุคลากรทางการแพทย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลากหลาย ทั้งโรงพยาบาล, page เราต้องรอด เป็นต้น ครอบคลุมทั้งในเรื่องของการใช้ AI ในการเข้าไปช่วยคัดกรองผู้ป่วย, หาเตียง, ให้คำแนะนำสำหรับการกักตัว ฯลฯ เพราะถึงแม่อาสาสมัครจะมีเยอะกว่าแสนคน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยที่มีมากกว่า 10 ล้านคน ทาง Botnoi จึงตั้งใจพัฒนา Chatbot สำหรับเรื่องนี้ เพราะอยากช่วยเหลือคนให้ได้มากที่สุด ด้วย Technology ที่เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน และนอกจากนี้ยังมีงานที่ทำร่วมกับ กรมสุขภาพจิต ที่ใช้ AI ในการพูดคุยกับคน แล้วคัดกรองผู้ป่วยให้เจอกับแพทย์ได้เร็ว และยังร่วมกับกรมควบคุมโรค ที่พูดคุยคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงโรค HIV เป็นต้น นอกเหนือจากการช่วยเหลือในด้าน commercial ที่หลายคนน่าจะรู้จักกัน

ดร.วินน์ยังเสริมปิดท้ายด้วยว่า ปัจจุบัน AI และ Chatbot เองเติบโตขึ้นมาก และในอนาคตอันใกล้เราอาจจะมี Quantum mechanics ที่จะมาช่วยให้การประมวลผลได้เร็วขึ้น โดยเราจะสามารถใส่ข้อมูลมหาศาล แล้วสกัดออกมาเป็นองค์ความรู้ให้กับ chatbot ถามอะไรก็ได้ จากนี้ chatbot ก็สามารถตอบได้หมด


ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติต่อไปอย่างแน่นอน

รับชมรายการเต็ม  AI ช่วยให้ Chatbot ฉลาดขึ้นได้อย่างไร และแวะมาพูดคุยเพิ่มเติมกันได้ที่เฟซบุ๊ค Creative Talk

Related Articles

Anchoring Effect อยู่ให้ถูกที่ วางให้ถูกทาง หลักจิตวิทยาสร้างภาพลักษณ์และมูลค่าของแบรนด์ให้ตรงเป้า

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมสินค้าแบบเดียวกัน คุณภาพเหมือนกัน แต่เมื่อเราวางขายในตลาดนัดด้วยราคาถูกกลับไม่มีลูกค้าคนไหนสนใจ กลับกันพอเราลองไปวางขายร้านที่มีลักษณะหรูหรา ลูกคนต่างให้ความสนใจแถมยังขายได้ราคาที่แพงกว่ากันหลายเท่าเสียด้วยซ้ำ ซึ่งปรากฏของกลไกนี้คือผลของหลักการทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Anchoring Effect  ในปัจจุบันนี้ธุรกิจต่างแข่งขันกันหนัก…

Article | Digital Marketing

พัฒนาการเขียนด้วย Science of Writing เมื่อการเขียนมีผลต่อจิตวิทยาของผู้อ่าน

ดังนั้นเรามาดูกันว่า การเขียนในมุมของวิทยาศาสตร์นั้น มีผลต่อความคิดของมนุษย์อย่างไร เพื่อให้เราสามารถนำไปปรับการสื่อสารของเราได้ดีขึ้น

Article | Living

ทำไมป้ายในสนามบินถึงใช้ฟอนต์เหมือนกัน ทำไมชั้นขาเข้าถึงอยู่ชั้นล่าง

คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมป้ายในสนามบินถึงมักจะใช้ฟอนต์ที่เหมือนกัน ทำไมบริเวณเกตที่เรารอเครื่องบินมักจะเป็นกระจกบานใหญ่ ๆ ทั้งที่มันทำให้แสงแดดเข้า ทำให้เปลืองไฟและทำให้ร้อน ทำไมชั้นขาเข้าถึงอยู่ชั้นล่าง แล้วชั้นขาออกถึงอยู่ชั้นบน แล้วทำไมพื้นที่เกตมักจะเป็นพรม แต่พื้นบริเวณก่อนถึงเกตมักจะเป็นหินหรือกระเบื้อง…

Creative/Design | Design You Don't See | Podcast