บางครั้งการเปลี่ยนแปลง ก็คือการย้อนกลับไปสู่ความคุ้นเคยในอดีต แต่แต้มสีสันของอนาคตลงไป
เป๊ปซี่ หนึ่งในแบรนด์น้ำอัดลมที่เราต่างรู้จักกันดี ได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญด้วยการเปิดตัวโลโก้ตัวใหม่ ที่มีดีไซน์แสนสะดุดตาและชวนคิดถึง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโลโก้ครั้งนี้นับว่ามีผลต่ออนาคตของแบรนด์มหาศาล ทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโลโก้? และมันมีความหมายต่ออนาคตของเป๊ปซี่อย่างไร?
ลองนึกภาพโลโก้เป๊ปซี่ปัจจุบันที่เราคุ้นเคยกันก่อน โลโก้เดิมจะมีลูกโลกอยู่ด้านบนและคำว่าเป๊ปซี่จะเป็นฟอนต์ตัวบาง ๆ อยู่ด้านล่าง ซึ่ง Todd Kaplan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Pepsi ได้พูดถึงโลโก้เดิมในบทความของ CNN ว่าโลโก้นี้อาจจะไม่สื่อสารถึงความทรงพลัง และความกล้าหาญในแบบที่เป๊ปซี่ต้องการมากพอ
บวกกับการปรับเปลี่ยนโลโก้ครั้งนี้ คือแนวคิดการปรับเปลี่ยนที่ผ่านการคิดมาอย่างดี เนื่องจาก Todd Kaplan ได้ลงมือทำวิจัยเกี่ยวกับโลโก้ แล้วพบว่าลูกค้าของเป๊ปซี่ต่างชอบโลโก้ในอดีตที่มีคำว่า PEPSI อยู่ในรูปโลก นั่นทำให้บริษัทได้ทบทวนการสร้างโลโก้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง นอกจากนั้นกลุ่มตัวอย่างสำรวจยังบอกอีกว่า โลโก้ช่วงยุค 70 และ 80 นั้นลงตัวที่สุด จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจหยิบรากเหง้าของอดีตมาปู สู่หนทางในอนาคตด้วยโลโก้ตัวใหม่นี้
“ความท้าทายของการทำโลโก้คือ เราจะนำสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในมรดกของอดีต มาฉายภาพใหม่ในยุคปัจจุบันและอนาคต”
Todd Kaplan
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานร้อยกว่าปี เป๊ปซี่ยังคงรักษาแนวคิดการเป็นผู้นำที่พร้อมปรับตัวร่วมกับป็อปคัลเจอร์อยู่ตลอด ทั้งโฆษณาที่ชอบแซวน้ำอัดลมเจ้าสีแดง, การแข่งขัน Pepsi Challenge กระทั่งการพลิกโฉมงานกีฬาด้วย Super Bowl Halftime Show ยังไม่รวมโฆษณาอันโดดเด่นมากมายที่เป๊ปซี่ได้เคยสร้างสรรค์มาจนเป็นที่จดจำ ซึ่งแบรนด์ยังคงพยายามผลักดันตัวเองไปข้างหน้าเพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับแฟน ๆ อยู่เสมอ
โดยโลโก้ใหม่นี้ จะเป็นการหยิบองค์ประกอบตลอด 125 ปี มาต่อยอดและผสมผสานอัตลักษณ์ที่ทันสมัยเพื่อสร้างรูปลักษณ์ใหม่ขึ้นมา โดยมาแทนลูกโลกตัวเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งคำว่า ‘PEPSI’ จะถูกทำให้หนากว่าเดิม และขยับมาอยู่ตรงกลางลูกโลกที่มีวงกลมขอบสีดำเหนือแถบสีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน พร้อมด้วยสีของลูกโลกที่สมมาตรมากขึ้น
ลูกโลกเป๊ปซี่และตัวอักษรที่ถูกควบรวมกัน แสดงให้เห็นถึงชีวิตชีวาที่มากกว่าเดิม ต่อมาก็คือจานสีที่อยู่บนลูกโลก ก็มีการเพิ่มสีน้ำเงิน และสีดำเข้าไปเพื่อให้รู้สึกแตกต่างและมีความร่วมสมัย แต่ยังคงเข้ากับโทนคลาสสิกของสีเป๊ปซี่
ที่โลโก้ได้เลือกเพิ่มสีดำเข้าไป เนื่องจากแบรนด์ต้องการให้ความสำคัญกับ Pepsi Zero Sugar ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่จะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ไร้น้ำตาลมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนั้นแบบอักษรที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความร่วมสมัยนี้ ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของแบรนด์และความคิดที่ไม่ยอมแพ้ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน นั่นทำให้เป้าหมายโดยรวมของการปรับโลโก้ครั้งนี้ คือการนำเสนอพลังอันยิ่งใหญ่ มีความมั่นใจ และความกล้าหาญ ที่พร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ
ในการประกาศเปิดตัวโลโก้นั้น Todd Kaplan กล่าวว่า “รูปลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยนี้ จะช่วยผลักดันให้แบรนด์แตกต่างกว่าใครและโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนั้นยังช่วยให้ผู้คนค้นพบวิธีใหม่ ๆ ที่จะเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่พวกเขารักโดยไม่รู้สึกผิด โลโก้นี้จะนำสิ่งที่ดีที่สุดจากมรดกอันเก่าแก่ของแบรนด์เป๊ปซี่ออกมาใช้ พร้อม ๆ กับก้าวกระโดดครั้งใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น”
โดยเป๊ปซี่จะเปิดตัวโลโก้ใหม่ในอเมริกาเหนือก่อน ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อฉลองครบรอบ 125 ปีของแบรนด์ และมีกำหนดเปิดตัวทั่วโลกในปี 2024 นับเป็นการก้าวสู่ยุคต่อไปของแบรนด์ด้วยการมุ่งสู่อนาคต
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนทึ่สุดคือ การอัพเดตใหม่ของรูปลักษณ์นี้ไม่ใช่แค่เพียงโลโก้ แต่เป็นสัญลักษณ์ความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะเปลี่ยนแปลงรูปโฉมอีกครั้ง ตั้งแต่การออกแบบใหม่ที่ย้อนกลับไปสู่รากเหง้าเพื่อกำหนดเส้นทางในอนาคต แต่โลโก้ใหม่นี้จะโดนใจผู้บริโภครึเปล่า? เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ ดังนั้นครั้งต่อไปที่เราจะเปิดเป๊ปซี่ ลองหยุดเพื่อใช้เวลาชื่นชมโลโก้ที่ประดับอยู่บนนั้นดูสิ บางทีเราอาจจะได้ไอเดียอะไรดี ๆ มาจากแนวคิดของแบรนด์ก็ได้นะ
💡🔥🔥 ถ้าอยากเข้าใจเบื้องหลังของแบรนด์และธุรกิจมากกว่านี้ สามารถไปอัพเดทความรู้ได้ที่งาน CTC2023 FESTIVAL งานมหกรรมความรู้ตลอด 3 วัน ที่รวมเอา Speakers ชั้นนำกว่า 100 คน มาอัพเดทเรื่องธุรกิจ เทคโนโลยี การตลาด การจัดการคน ไปจนถึงเทรนด์ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลก ทั้งหมดนี้ในราคา 1,400 บาท!! ยิ่งนานราคาก็ยิ่งขึ้น รีบเลย! เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.CTC2023.com