ประโยชน์ของการฟังและสิ่งที่คุณอาจจะพลาด ถ้าไม่หยุดฟัง

ช่วงหลังผมสังเกตุเห็นว่า คนที่มีความรู้ความสามารถมักไม่ค่อยอวดความรู้ความสามารถของตัวเอง ไม่ค่อยพูดมาก เหมือนกับคนที่ร่ำรวยมีเงินหลายคนก็ไม่ค่อยอวดรวย ไม่ค่อยเอาเงินมาโชว์ เพราะคนรวยไม่ค่อยอยากจะโชว์มากก็กลัวคนจะมายืมเงิน ในขณะที่คนที่ไม่เก่งจริง ไม่รวยมาก ชอบทำตัวตรงกันข้าม

ผมได้ไปเจอกับคนหลาย ๆ คนในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้สังเกตว่าคนที่เรารู้สึกนับถือ เรารู้ว่าคนนี้เก่งมีความสามารถ แต่เราจะนับถือคนที่ฟังมากกว่าพูด มีหนังสือมากมายที่ออกมาว่า ถ้าคุณจะชนะใจคนคุณต้องฟัง ถ้าคุณอยากจะรู้จักคนมากขึ้นคุณต้องฟัง

มีคนกล่าวว่า บางครั้งคุณอาจจะไม่รู้ในสิ่งที่คุณไม่รู้ เพราะคุณไม่ได้ฟังนั่นเอง บางครั้งเพื่อนกำลังเล่าบางอย่างให้คุณฟัง แล้วคุณก็รีบพูดรีบแทรก เพราะคุณรู้สึกว่าเรื่องนี้ฉันก็เคยเจอ เรื่องนี้ฉันก็เคยเป็น ทำให้หลายครั้งคุณไม่ได้ฟังว่า จริงๆ แล้วเขาตั้งใจจะพูด ตั้งใจจะเล่าอะไร

ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของ “การฟัง” และสิ่งที่คุณจะพลาดถ้าคุณไม่ได้ฟัง

1. คุณอาจจะเห็นอันตรายที่มองไม่เห็น

นึกภาพว่าคุณกำลังจะทำอะไรบางอย่าง แล้วมีคนมาทักว่า ตรงนี้อย่าทำ มันจะได้ผลไหม แน่ใจหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้คุณควรฟัง แน่นอนว่าบางครั้งคุณอาจจะมั่นใจในสิ่งที่คุณทำ คนที่มาขัดไม่ว่าจะหวังดี ไม่ดี หรือแค่เป็นคนไม่กล้าเสี่ยง ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็แนะนำให้ฟังก่อน ฟังด้วยความเปิดใจ รับเอามาคิด การที่มีคนพูดให้คุณฟังอาจจะช่วยให้คุณมองเห็นอันตรายบางอย่างที่คุณอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ 

2. ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น

การฟังจะช่วยให้การตัดสินใจของคุณ ไม่ว่าเป็นการตัดสินใจที่เอียนเองหรือมองแค่ด้านเดียว บางครั้งคุณต้องยอมรับว่าคุณมีความรู้ในระดับหนึ่ง คุณอาจจะบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว คุณรู้เรื่องนี้แล้ว คุณชัดเจนกับเรื่องนี้มากแล้ว แต่คุณก็ควรฟังผู้อื่นเพิ่มเติม บางครั้งอาจจะมีบางมุมที่ไม่รู้

การฟังคนอื่นทำให้การตัดสินใจของคุณดีขึ้น การเป็นผู้นำหรือการเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ จำเป็นที่จะต้องรู้หลาย ๆ อย่าง รู้กว้าง แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องรู้ลึก ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ของคนอื่น ๆ  ซึ่งคนที่รู้ลึกก็สามารถมาช่วยเตือนคุณได้ทำให้การตัดสินใจของคุณนั้นมันไม่เอียนเองไปข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น

3. ช่วยพัฒนาตัวเอง

การที่คุณสามารถที่จะฟังอะไรมากๆ เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองได้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องคบคนที่หลากหลาย คุณต้องมีเพื่อนมีทีมงานที่หลากหลาย แน่นอนว่าสิ่งที่ยังเป็นจริงอยู่ คือ การจ้างงานคนที่เก่งกว่าคุณมาทำงาน นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก

สตีฟ จอบส์ เคยบอกว่า มีเฉพาะคนเกรดเอเท่านั้น ที่อยากจะจ้างคนเกรดเอบวก แต่นอกนั้น คนเกรดบีจะจ้องคนเกรดซีมาทำงาน คนเกรดซีจะจ้างคนเกรดดีมาทำงาน หมายความว่า มีแต่คนเก่งเท่านั้นที่อยากจะจ้างคนที่เก่งกว่าเขา ฉลาดกว่าเขามาทำงาน และก็มีแต่คนโง่เท่านั้นที่อยากจะจ้างคนที่โง่กว่ามาทำงานเป็นลูกน้องตัวเอง

ในการที่เรามีคนที่ฉลาดกว่าเรามาทำงานมันก็จะทำให้เรามีไอเดียที่หลากหลาย คำว่าที่ฉลาดกว่าอย่างที่บอกไปว่า บางทีเราอาจจะรู้กว้างแต่ไม่รู้ลึก เราจ้างคนที่เป็นโปรแกรมเมอร์เก่ง ๆ เขาอาจจะช่วยแนะนำอะไรเราหลาย ๆ อย่างได้ เราจ้างดีไซนเนอร์เก่ง ๆ มาเขาอาจจะแนะนำเราในหลาย ๆ ด้านได้

ดังนั้น การจ้างคนที่เก่งกว่าเราในแต่ละด้าน มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้นโดยที่เราไม่ต้องไปศึกษาลงลึกในแต่ทุก ๆ เรื่อง นั่นก็คือ เรื่องของการที่เรามีความหลากหลาย (Diversity) มีทีมงาน มีเพื่อนที่หลากหลายอยู่หลายกลุ่ม จะทำให้เราสามารถฟังได้มากขึ้น เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

ภาพประกอบจาก Chermiti Mohamed