Trending News

Subscribe Now

Innovation Trends 2022: รู้จักเทคโนโลยีที่เตรียมจะเขย่าวงการในปีหน้า

Innovation Trends 2022: รู้จักเทคโนโลยีที่เตรียมจะเขย่าวงการในปีหน้า

Article | Technology

กำลังจะหมดปีแบบนี้ CREATIVE TALK ขอชวนทุกคนมาอัปเดตเทคโนโลยีและนวัตกรรมเทรนด์ที่ทาง Deloitte คาดการณ์ว่าจะมาอย่างแน่นอนในปี 2022 

จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปอ่านพร้อมกันได้เลยครับ


การจัดการเรื่อง Data จะง่ายขึ้นและต้องปลอดภัยมากขึ้น

เรื่องของ Data ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกแล้วในวงการเทคโนโลยี และยังเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกองค์กรควรจะให้ความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดเก็บ การป้องกัน และนำมาวิเคราะห์วางแผนร่วมกับแผนการตลาดต่างๆ โดยในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึง 3 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในโลกของเทคโนโลยีของ Data ก็คือ

การแบ่งปัน Data จะทำได้ง่ายขึ้นและเติบโตมากขึ้น

หลังจากนี้จะเกิดการแชร์ข้อมูลของลูกค้าระหว่างกันมากขึ้นในระหว่างแบรนด์ ยิ่งกับแบรนด์ใหญ่ที่มีกิจการในเครืออยู่แล้ว ก็จะทำได้ง่ายและจะสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ได้มากขึ้น

แบรนด์ต่างๆ จะสร้างรายได้จากฐาน Data ที่มีอยู่

ใครที่เก็บ Data ไว้ในมือมากพอ จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปสร้างรายได้ต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการขายต่อหรือการเปิดให้แบรนด์ที่เหมาะกับ Audience มาลงโฆษณาระหว่างกันได้

การเก็บรักษา Data ให้ปลอดภัยจะเป็นหัวใจสำคัญแห่งอนาคต

สำหรับปี 2021 เราจะเห็นกรณีข้อมูลรั่วไหวอยู่หลายครั้ง ในปีหน้าเริ่มความปลอดภัยของการเก็บข้อมูลจะเป็นหัวข้อสำคัญมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม และจะกลายเป็นมาจรฐานที่องค์กรต่างๆ ต้องสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าผู้ใช้งานให้ได้


ระบบ Cloud จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบคลาวด์ที่จะสามารถออกแบบแนวทางการทำงานในแต่ละอุตสาหกรรมได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ และช่วยให้โฟกัสที่การสร้างความแตกต่างในการแข่งขันได้มากขึ้น

ในปี 2022 ที่จะถึง เราจะได้เห็น​​ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ และผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อื่นๆ จะพากันนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่เชื่อมต่อ API เข้ากับระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งการทำงานที่เฉพาะเจาะจงกับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น และจะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าเวลาในการทำงานด้วยระบบอัติโนมัติ เพื่อสร้างความแตกต่างทางดิจิทัลที่ง่ายมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกหลายแห่งได้ร่วมมือกับผู้จำหน่ายระบบคลาวด์เพื่อพัฒนาบริการพัฒนาแอพพลิเคชันรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวน์ของ IoT และระบบอัฉจิรยะต่างๆ และยังสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อเพื่อส่งมอบบริการใหม่ที่ตอบความต้องการที่มากขึ้นกว่าเดิม

จากการวิเคราะห์ของ Deloitte เราคาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดระบบคลาวด์ในอุตสาหกรรมจะสูงถึง 640 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในห้าปีข้างหน้าเลยทีเดียว

แต่คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบในธุรกิจแบบยกใหญ่ อันที่จริง คุณสามารถทำได้ด้วยขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่รอบคอบ เพื่อช่วยให้คุณก้าวผ่านระบบแบบเก่าที่ซับซ้อน หรือลองคิดริเริ่มในการปรับปรุงแกนหลักให้ทันสมัยทีละขั้นตอน เพื่อสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและทรงประสิทธิผลมากขึ้นในระยะยาว


Blockchain พร้อมแล้วสำหรับโลกธุรกิจ

หลังจากที่ถูกพูดถึงเป็นเวลานาน ถึงเวลาที่ Blockchain จะเข้ามามีบทบาทต่อโลกธุรกิจกันจริงๆ เสียที จากผลการค้นคว้าและวิจัยจากทาง Deloitte ได้บอกเราว่าธุรกิจทั่วโลกเตรียมพร้อมสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัล การเงินยุคใหม่แล้วล่ะครับ 

จากแต่ก่อนหน้านี้หลายปี Cryptocurrency เป็นตัวเลือกที่มีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะขาดความน่าเชื่อถือและไม่ปลอดภัย ในทุกวันนี้เรามีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญสกุลเงินดิจิทัลที่มีมาตรฐานมากขึ้น มีธนาคารคารดิจิทัลที่ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น เพราะใครก็ตามที่อยากเข้ามาซื้อขายก็จะต้องให้ข้อมูลประจำตัวที่ยืนยันแล้วถึงจะสามารถเข้าร่วมได้ 

จากงานวิจัยของทาง Deloitte ยังบอกอีกว่า 80% ของคนที่มีบัญชีซื้อขายดิจิทัล พวกเขามองว่าตัวเขาและธุรกิจของตัวเองจะสามารถสร้างรายได้มากขึ้นบน Blockchain ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล หรือเหรียญสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ เนื่องจากธนาคารของแต่ะประเทศได้ยอมรับธุรกิจแห่งอนาคตนี้แล้ว ทำให้จะมีผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเติบโตที่สุดในปี 2024 อย่างแน่นอน

อีกหนึ่งสิ่งที่ Blockchain จะมอบให้กับเราคือความปลอดภัยในเรื่องของข้อมูลต่างๆ แต่ก็ยังคงง่ายในการที่คุณจะแบ่งปันข้อมูลเหล่านั้นให้กับผู้อื่นต่อได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อบริการด้านสุขภาพ หรือข้อมูลที่ดำเนินการไปยังทั่วโลกได้ด้วย เรียกว่าปลอดภัยและยังง่ายดาย

นอกจากนี้ การทำธุรกรรม NFT จะกลายเป็นอีกสิ่งที่จะเติบโตมากขึ้น หลังจากการประกาศตัวของ Meta ที่สร้างความคึกคักต่อโลกเสมือน Metaverse เราจะได้เห็นแบรนด์มาร่วมในโลก NFT มากขึ้นตามไปด้วย 


ถึงเวลายกระดับฝ่าย IT ของบริษัทคุณ

ก่อนหน้านี้ฝ่าย IT Supports ของแต่ละบริษัทอาจจะมีหน้าที่สนับสนุนงานเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงโปรแกรม การจัดเก็บข้อมูล หรือตรวจสอบความถูกต้องต่างๆ แต่หลังจากนี้องค์กรที่คิดจะผันตัวเป็นธุรกิจแห่งอนาคต พวกเขาต้องการฝ่ายสนับสนุนทางเทคโนโลยีทั้งฮาร์ตแวร์แลพซอฟต์แวร์ที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น

เพราะอย่างที่เราได้ทราบจากเทรนด์ในลำดับข้างต้นที่จะมีการใช้ระบบใหม่เข้ามาร่วมกับการทำงานที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Blockchain รวมถึงการใช้ระบบอัติโนมัติและ Machine Learning ดังนั้นการมีทีมงานที่มีความเข้าใจและความเชี่ยวชาญ องค์กรก็จะเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้มากขึ้น


โดยมีทั้งหมด 3 สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นหลังจากนี้

  • การประมวลแม่นยำที่มากขึ้น ลดการทำงานแบบ Physical ลงให้ได้ มีการจัดเก็บที่เป็นคุณภาพ
  • เพิ่มความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ข้อมูลของบริษัทและลูกค้าจะยิ่งสำคัญมากขึ้น ความปลอดภัยจะกลายเป็นมาตรฐานที่แต่ละองค์กรต้องดูแลให้ได้ 
  • อย่าลืมความยืดหยุ่น ระบบของบริษัทต้องเข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน และยืดหยุ่นเพื่อรองรับโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต

ที่มาของข้อมูล

Related Articles

เว็บเบราว์เซอร์บอกได้ว่าคุณเป็นคนอย่างไร จากหนังสือ Original (คนต้นแบบ)

หนังสือ Original เขียนโดย Adam Grant (อดัม แกรนต์) เป็นหนังสือที่พูดเกี่ยวกับว่า ปกติคนเราจะชอบทำตามสิ่งที่วางไว้ตั้งแต่ต้น อะไรที่มีอยู่แล้วก็ทำตามนั้น…

Article

บทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟกับคุณ Johnny Ng จาก หนังสือพิมพ์ฮ่องกง South China Morning Post

ในวันงาน CTC2020 ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับหนึ่งใน speaker สำคัญที่บินตรงมาจากฮ่องกง คุณ Johnny Ng (จอนนี่ เอง)…

Article | Digital Marketing