Trending News

Subscribe Now

อย่าว่าแต่อ่านให้ได้หลายเล่มเลย อ่านให้จบสักเล่มก่อนดีกว่า – รวมเทคนิคทำลายกองดอง อ่านหนังสือยังไงให้จบ!

อย่าว่าแต่อ่านให้ได้หลายเล่มเลย อ่านให้จบสักเล่มก่อนดีกว่า – รวมเทคนิคทำลายกองดอง อ่านหนังสือยังไงให้จบ!

Article | Living | Nice to Read You

เชื่อว่ามีหลายคนเป็นนักดองหนังสือ และอาจดองหนังสือที่ซื้อมาตั้งแต่สมัยที่งานหนังสือที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ยังไม่ปิดปรับปรุง หรือบางคนอาจดองแม้แต่บทความออนไลน์ เพราะกระทั่งโพสต์สั้นๆ ก็ขอแชร์ไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาตามอ่านทีหลัง แต่การตามอ่านทีหลังเหล่านั้นแทบไม่เคยเกิดขึ้นจริง…

แล้วมันจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะอ่านหนังสือเป็นสิบๆ ร้อยๆ เล่มได้ในหนึ่งปี คำตอบคือแน่นอนว่าเราทำได้ แต่ก่อนจะเริ่มต้นอ่านหนังสือมากมายขนาดนั้นให้จบได้ เราจะเอาพลังที่ไหนหรือเทคนิคอะไรมาทำให้เราอ่านหนังสือให้เร็วขึ้นและยังได้ใจความด้วยได้บ้าง?

วันนี้ CREATIVE TALK เลยหาคำแนะนำดีๆ มาแชร์ให้ทุกคนได้ลองเอาไปใช้กันเพื่ออ่านหนังสือให้จบไวและยังได้คุณภาพ


‘6 ทริคสำคัญช่วยเพิ่มความเร็วในการอ่านแบบมีประสิทธิภาพ’

1. อ่านแบบ ‘ไร้ความปรานี’

อย่าไปหลงใหลแค่หนังสือบางเล่ม หรือหลงรักแค่เวลาบางช่วงที่เหมาะกับการอ่านหนังสือ ต่อไปนี้ ให้หยิบหนังสือเล่มใดก็ได้ขึ้นมาแล้วลุยอ่านแบบ skim เลย ( skim คือการอ่านแบบคร่าวๆ เพื่อหา main ideas) เพราะอย่างน้อยถ้าเป็นหนังสือประเภท nonfiction คุณก็คงพอจะรู้เรื่องราวในนั้นอยู่บ้าง ดังนั้นลองลุยอ่านแบบข้ามๆ ได้เลย เพราะเมื่อไหร่ที่เราได้อ่านหนังสือสักเล่มจริงๆ เรามักจะมีคำพูดขึ้นมาในหัวอย่างเช่น ‘รู้อยู่แล้ว’ ‘อืมใช่’ ขึ้นมาในหัว และเมื่อคุณอ่านต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความเข้าใจพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว คุณก็จะอ่านได้เร็วขึ้น และมันคือวิธีที่จะทำให้เราอ่านหนังสือได้มากขึ้น


2. อ่าน ‘เพื่อแก้ปัญหา’ 

การอ่านที่ดีที่สุดคือการอ่านแบบโฟกัส ในเวลาที่เราพยายามที่จะแก้ปัญหาเรื่องอะไรสักอย่าง เพราะเราสามารถจะมุ่งไปหาคำตอบของคำถามที่เฉพาะเจาะจงได้ด้วยความมุ่งมั่น และสืบเสาะจนกว่าจะเจอสิ่งที่จะแก้ความสงสัยของเราได้ ซึ่งคุณอาจต้องเริ่มตั้งต้นด้วยปัญหาหรือคำถามในใจ ก่อน เวลาที่คุณอ่าน


3. อ่าน ‘เป็นกลุ่มก้อน’

คำแนะนำข้อนี้เชื่อมโยงกับคำแนะนำที่กล่าวมาก่อนหน้า เพราะถ้าคุณจัดการการอ่านของตัวเองให้สอดคล้องไปกับคำถามหรือขอบเขตของการสำรวจสิ่งที่สงสัยแล้ว ท้ายที่สุดคุณก็จะอ่านหนังสือได้หลายเล่มเลยทีเดียว เพราะความต้องการที่จะหาคำตอบของคำถามตั้งต้นเพียงคำถามเดียว อาจทำให้คุณต้องเสาะหาชิ้นส่วนเล็กๆ จากหนังสือหลากหลายเล่ม มาประกอบรวมกันเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ


4. ‘อย่าได้มองข้ามนิยาย’ 

แม้การอ่านหนังสือ non-fiction จำนวนมากเพื่อค้นคว้าประเด็นความรู้บางอย่างที่จับต้องได้ จะเป็นเรื่องที่เจ๋ง แต่อย่าได้มองข้าม fiction หรือนิยายไปโดยเด็ดขาด เพราะการอ่านนิยายนั้นมีความสำคัญกับการทำความเข้าใจความหลากหลายด้านต่างๆ ในความเป็นมนุษย์ และช่วยให้เราเข้าใจความซับซ้อนละเอียดอ่อนของผู้คน รวมถึงเข้าใจถึงประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคที่ต่างกัน และช่วยให้เรามองเห็นภาพชิ้นส่วนต่างๆ ทางสังคมที่แตกต่างว่ากันมันประสานกันลงตัวได้อย่างไร และทั้งหมดทั้งมวลแล้วการอ่านนิยายยังเป็นความสนุกที่เติมเต็มเราได้ง่ายๆ อีกด้วย 


5. อ่านหนังสือที่คุณ ‘ไม่รู้จัก’ เรื่องราวอะไรในนั้นเลย 

ทุกๆ เรื่องราวและขอบเขตเนื้อหาในหนังสือที่คุณไม่เคยสนใจมาก่อน อาจเป็นสิ่งที่คุณควรลองหยิบมาอ่านให้จบดูสักครั้ง เพราะหนังสือที่ดีที่สุดอาจเป็นหนังสือที่คุณไม่เคยสนใจมาก่อนเลยก็ได้ เหมือนกับการทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ ในชีวิต ซึ่งความสนุกของมันก็คือคุณไม่รู้เลยว่าหนังสือเล่มนั้นมันจะบอกเล่าอะไรกับคุณ เหมือนกับที่เราไม่รู้เลยว่าคนแปลกหน้าที่ได้เจอนั้นมีเรื่องราวอะไรให้คุณเรียนรู้บ้าง


6. จง ‘สนุก’ กับมัน

ลองอ่านหนังสือแบบจริงจังดูสักตั้ง แล้วก็พัฒนา passion หรือความหลงใหลและความอยากจะอ่านหนังสือพวกนั้นดู แล้วลองมองว่าการอ่านนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนตัวเราให้เป็นมนุษย์ผู้มีความรู้ และขยายขอบเขตโลกใบเดิมของเราให้กว้างใหญ่ขึ้น และสิ่งสำคัญที่สุดของการอ่านก็คือจงเพลิดเพลินกับมันในระหว่างทางที่อ่านด้วย


อ้างอิงเนื้อหาจากA Super Reader Who Gets Through Hundreds of Books a Year Explains How to Read Way More


เรื่อง:  ป่าน – อดามาส
Content Creator ผู้ชอบงานเขียนมากกว่าทุกสิ่ง และชอบตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตที่หาคำตอบไม่ค่อยเจอ

Related Articles

ไม่ใช่แค่ใหม่ล้ำแต่ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ว่าด้วยโลกของนักออกแบบยุค 2020

“ผมรู้สึกว่าต้องไถ่โทษไปชั่วชีวิต”  Aza Raskin เอ่ยขึ้นในสารคดี Abstract เขาคือผู้ออกแบบและคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า Bottomless Scroll สิ่งประดิษฐ์ที่ทำให้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสามารถเลื่อนลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งประดิษฐ์นี้ทำให้ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต มือถือ…

Article | Creative/Design

Paradigm shift of marketing เมื่อการตลาดปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์

หากมองย้อนดูในช่วงเวลาที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงของโลกไปอย่างมากจากทศวรรษที่ 90 จนถึงปัจจุบัน ทำให้พฤติกรรมและวิธีคิดของประชากรจากในอดีตเปลี่ยนไปมากเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ คนวัย 50-60 ปี มักจะไม่ค่อยกล้าเสี่ยง…

Article | Digital Marketing

เมื่อ AI จำลองภาพถ่ายเสมือนจริงของรูปปั้นและบุคคลในประวัติศาสตร์ จะมีหน้าตาอย่างไร?

ลองจินตนาการว่า หากภาพวาดหรือรูปปั้นของบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์เช่น นโปเลียน, ควีน อลิซาเบธ, หรือแม้กระทั่งรูปปั้นของเทพีเสรีภาพ กลายมาเป็นภาพถ่ายที่ดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนจริง ๆ ลักษณะหน้าตาของพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้าง Bas…

Article | Technology