เมื่อพูดถึงการใช้ Influencer ในการโปรโมตแบรนด์ หลายคนจะนึกภาพว่า Influencer นั้นต้องมีฐานแฟนคลับติดตามจำนวนมาก ถึงจะทำให้คนรู้จักและเข้าถึงแบรนด์สำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้
ที่กล่าวมาก็มีส่วนอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในความเป็นจริงแล้ว เหล่า Influencer นั้นมีหลายระดับต่างกันไป การนำไปใช้ก็มีวัตถุประสงค์ไม่เหมือนกัน ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักก่อนว่า Influencer คืออะไร
Influencer คืออะไร?
Influencer คือ กลุ่มคนที่มีอิทธิิพลต่อความคิิดและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น การนำ Influencer มาใช้ในการตลาดก็เพื่อจะสื่อสารสิ่งที่แบรนด์อยากพูดไปถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านพลังเสียงของบุคคลที่สาม ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการรับรู้ สนใจ ติดตาม และสร้างเชื่อมั่นได้มากกว่าการที่แบรนด์สื่อสารทางเดียว
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า Influencer มีหลายประเภท แบ่งตามระดับ วันนี้เราเลยจะมาสรุปให้เข้าใจง่าย จากภาพนี้เลย
Influencer แบ่งเป็น 3 ประเภท
- Celebrity คือ กลุ่มคนดังที่มีจำนวนคนติดตามเยอะมาก ๆ ตั้งแต่ 1 แสนคนขึ้นไปจนถึงหลักล้าน เช่น ดารา เซเลบริตี้ ไฮโซ เป็นต้น ดังนั้น Influencer กลุ่มนี้เหมาะสำหรับใช้เพื่อให้เกิดการรับรู้สินค้าหรือแบรนด์ในวงกว้างแบบ เน้นยอดการเข้าถึงจำนวนมาก ๆ เป็นการสร้าง Awareness ที่เป็นแบบ Mass Awareness ไม่เน้นเจาะจงกลุ่มใด หรือเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
- Macro Influencer คือ กลุ่มคนที่มียอดติดตามรองลงมา อยู่ในระดับ 1 แสนคนขึ้นไป แต่มีความสนใจเฉพาะกลุ่มแคบลงมา เช่น เกี่ยวกับความสวย ความงาม สุขภาพ ท่องเที่ยว เทคโนโลยี เป็นต้น ดังนั้น Influencer กลุ่มนี้เหมาะสำหรับการใช้สร้าง Awareness ให้กับแบรนด์ เช่นเดียวกับกลุ่ม Celebrity สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จำนวนมาก แต่เจาะจงกลุ่มความสนใจมากขึ้น
- Micro Influencer คือ กลุ่มคนที่มียอดติดตามตั้งแต่ 5,000 ถึง 1 แสนคน Influencer กลุ่มนี้ถึงแม้ยอดคนติดตามจะไม่มาก แต่มีอิทธิพลและโน้มน้าวให้ตัดสินใจซื้อได้มากกว่า และเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้าง Niche ดังนั้น กลุ่มนี้เหมาะกับการใช้เพื่อสร้าง Engagment ให้กับแบรนด์นั่นเอง
Macro Influencer vs. Micro Influencer ใช้แบบไหนดี?
ก่อนอื่น… ‘วัตถุประสงค์หลักในการสื่อสารของแบรนด์เราคืออะไร?’ ลำดับของการสื่อสารตอนนี้เราอยู่ในขั้นไหน หากเป็นแบรนด์ใหม่ ต้องการให้คนรู้จักสินค้าเป็นจำนวนมาก ๆ ในวงกว้าง ควรการใช้ Macro Influencer ในเริ่มแรกจะได้ผลดี
อย่างไรก็ตาม การได้เห็น ได้ยินเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ เพราะสิ่งสำคัญคือ เราต้องการให้คนมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ดังนั้น การใช้ Micro Influencer เข้ามาช่วยเสริมพลังในการสื่อสาร การบอกต่อในกลุ่มคนเล็ก ๆ เหมือนเพื่อนบอกต่อเพื่อน ทำให้เกิดการ Like Comment Share และโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า
ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพแบบง่าย ๆ ก็เหมือนกับเวลาเราเห็น ดารา ศิลปิน หรือคนที่เราชื่นชอบ ใช้สินค้าชนิดนี้อยู่ แต่จริง ๆ คงยังไม่ติดสินใจซื้อ จนกระทั่งเพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง หรือคนใกล้ชิด บอกว่า “เออ ใช้ดีจริง เราก็ใช้อยู่” ถึงตอนนี้เราอาจจะเกิดความอยากซื้อขึ้นมาทันที เพราะดูน่าเชื่อถือได้และคนใกล้ตัวก็ใช้
สรุปแล้ว จะเลือกใช้ Influencer แบบไหนให้ปัง ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต้องดูที่วัตถุประสงค์การสื่อสารก่อน และจังหวะว่าคนรู้จักแบรนด์มากน้อยแค่ไหนแล้ว หลังจากนั้นจึงเลือกใช้ Influencer ให้เหมาะสมกับแต่ละแคมเปญ ใช้ Macro Influencer เพื่อสร้างการรับรู้ และตบท้ายด้วย Micro Influencer เพื่อคอยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้ออีกที
ข้อมูลอ้างอิงจาก: Tellscore, twfdigital.com
บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ