Trending News

Subscribe Now

“เว้นวรรคจากการทำงาน” ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และทำไมคุณควรประกาศให้โลกรู้

“เว้นวรรคจากการทำงาน” ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และทำไมคุณควรประกาศให้โลกรู้

Article | Living

62% ของคนทำงานในปัจจุบันมีช่วงเวลา “เว้นวรรคจากการทำงาน” ไม่ช่วงเวลาใดก็ช่วงเวลาหนึ่ง

เมื่อก่อนการเปลี่ยนงานบ่อยและประกาศว่าตัวเองกำลังอยู่ในช่วง “เว้นวรรคจากการทำงาน” เป็นสิ่งต้องห้าม เพราะจะทำให้คุณสูญเสียโอกาสในการได้งานใหม่ ทำให้ผู้สมัครส่วนใหญ่เลือกที่จะปกติข้อเท็จจริงนี้ไว้ไม่กล้าประกาศให้ใครรู้ โดยเฉพาะหน้าประวัติของตัวเองใน Networking Community อย่าง LinkedIn  

แต่รู้หรือไม่ว่า การประกาศการเว้นวรรคจากการทำงานอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะใน LinkedIn เป็นเรื่องธรรมดามาก แล้วในปัจจุบัน


การจ้างงานทั้งชีวิตเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว

ตอนนี้มีเพียงเหล่า Babyboomer เท่านั้นที่ทำงานอยู่ที่เดิม 30 ปีขึ้นไป เพราะอายุการจ้างงานเฉลี่ยในปัจจุบันกำลังลดลง บางแห่งว่าจ้างเป็นสัญญาระยะสั้น บางแห่งระยะยาว นอกจากนี้การตัดสินใจอยู่ในระยะยาวของตัวพนักงานเองก็เริ่มลดลงตาม หรือแม้กระทั่งสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำผลักดันให้เกิดปรากฏการณ์เชิญออกไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่มากขึ้น

ปัจจุบันหลายๆ คนเริ่มพักจากการทำงานด้วยหลากหลายเหตุผลมากขึ้น ไม่ว่าจะต้องการพัฒนาทักษะต่างๆ ของตัวเอง การไขว่คว้าหาโอกาสใหม่ๆ เหตุผลส่วนตัวด้านครอบครัว หรือการต้องดูแลคนรอบข้าง นอกจากนี้เมื่อประกอบกับปัจจัยที่ว่าอายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์สูงขึ้น เราก็จะได้เห็น ภาวะ “พักจากการทำงาน” นี้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

“20% ของผู้ว่าจ้างกล่าวไว้ว่าจะไม่จ้างคนที่เว้นวรรคจากการทำงาน”

อย่าไปสนใจ 20% นั้น เพราะคำพูดแบบนั้นแสดงให้เห็นว่า องค์กรเหล่านั้นยังใช้ชีวิตอยู่ในอดีต ทำให้พวกเขากลายเป็นองค์กรที่ไม่น่าดึงดูดในสายตาคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Millennials ที่แสวงหาสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลา นอกจากนี้อีก 80% ที่เหลือก็เยอะมากเพียงพอให้คุณได้ร่วมงานด้วย 

“84% ของกลุ่ม Millennials เห็นภาพตัวเองในอนาคตว่าจะต้องเว้นวรรคจากการทำงานบ้าง”


3 เหตุผลที่ทำไมคุณควรใส่ “เว้นวรรคจากการทำงาน” ใน LinkedIn

การออกตัวแรงเป็นนโยบายที่ฉลาด และเป็น “ตัวกรองความสุข”

จงใช้ชีวิตอย่างกล้าหาญ แล้วโลกจะปรับตัวเข้าหาคุณเอง การประกาศแบบนี้เป็นเหมือนการประกาศตัวตนให้โลกได้รู้ บริษัทที่ส่งเสริมความเป็นตัวของตัวเองของทีมงานจะตามหาคุณเอง นอกจากนี้ยังเป็นเหมือน “ตัวกรอง” ที่คัดเอาผู้ว่าจ้างที่อาจทำให้คุณไม่มีความสุขออกไปได้ เพราะฉะนั้นจงใช้มันดั่ง “ตัวกรองความสุข” ของคุณ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับบริษัทที่อาจมีทัศนคติในการทำงานที่ไม่ตรงกัน

การเว้นวรรคจากการทำงานทำให้คุณมีพลังและพัฒนาทักษะใหม่ๆ

อาการเหนื่อยล้า และ Burnout เป็นสัญญาณให้คุณพักจากงานบ้าง เมื่อคุณได้พักสมอง พักจิตใจจากความเหนื่อยล้า คุณอาจเห็นมุมมองด้านอาชีพใหม่ และนั่นทำให้คุณได้โฟกัสกับทักษะที่ควรพัฒนา หรือ เรียนรู้ทักษะใหม่ไปเลย เป็นการตามหาความฝันและความท้าทายใหม่ๆ อีกครั้ง เติมพลังให้กับคุณทั้งกายและใจในระยะยาว

“การกลับไปทำงานที่เดิม” กำลังเป็นที่นิยม

ปรากฏการณ์ “การลาออกครั้งยิ่งใหญ่” (The Great Resignation) ทำให้เหล่าผู้ว่าจ้างเองก็ต้องให้นิยามการหาคนทำงานใหม่ โปรแกรมการกลับมาทำงานที่เดิม (Returnship Program) กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพราะองค์กรเองก็ไม่อยากเสียคนดีๆ ไปตลอดกาล การให้พนักงานได้ไปพักบ้าง จึงเป็นประโยชน์กับทั้งบริษัทและตัวพนักงานเอง 


ถ้าคิดจะพัก ก็แค่ประกาศซะ!!!

สุดท้ายแล้วการประกาศว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงเว้นวรรคจากการทำงาน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเทรนด์การทำงานในปัจจุบันไม่มีใครอยู่กับองค์กรเดิมนานอีกต่อไปแล้ว การได้ออกไปแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจอโอกาสใหม่ๆ นอกจากจะทำให้คุณเติบโตและพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดแล้ว ยังเป็นการท้าทายตัวเองและเติมไฟให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอด้วย แต่คนไหนที่พอใจกับการทำงานที่เดิม เพราะมีความสุขแล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน จงเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ตัวเองพอใจก็พอ


ที่มาของข้อมูล

Related Articles

“เปลี่ยนจุดอ่อน ให้เป็นจุดแข็ง” ด้วยการบอกจุดด้อยของตัวเอง

จุดอ่อนของคุณคืออะไร? ถ้าใครเคยผ่านการสัมภาษณ์งานมาแล้ว หนึ่งในคำถามที่มักจะถูกถามอยู่เสมอก็คือ “จงบอกข้อเสียของคุณ” ดังนั้น เวลาเรากำลังพรีเซนต์อะไรก็ตาม “อย่าลืมนำเสนอจุดอ่อนของเราด้วย” ลองนึกภาพตามว่า ตลอดเวลาที่เรากำลังพูดถึงข้อดีต่าง ๆ…

Article

มีอะไรที่คุณต้องรู้ในโลกที่ไม่หยุดนิ่งบน Streaming

มาทำความรู้จักและร่วมเติบโตไปพร้อมๆ กันกับธุรกิจ Movie Streaming ที่กำลังน่าจับตามองอยู่ในขณะนี้ WeTV และ VIU ทุกเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน จะถูกนำมาเปิดเผย ที่นี่ที่แรก !!

Article | Business

Profender: ถอดรหัสบริษัทโช๊คอัพสัญชาติไทยไปไกลระดับโลก

ส่องความสำเร็จ ถอดรหัสชุดความคิดของคุณ ธงชัย เอี่ยมวัฒนศิลป์ ผู้บริหาร Profender โช๊คอัพสัญชาติไทยว่า มีวิธีการอย่างไรที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ไปไกลระดับโลก

Article | Entrepreneur