วันนี้อยากจะมาชวนคุยเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือ Productivity Hack โดยอิงข้อมูลจาก Fast Company ในหัวข้อ “The Secret Of Most Productive People” กับ 5 ข้อที่ถ้าเราสามารถทำได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
1. Turn On An Airplane Mode
ถ้าเราอยากโฟกัสกับงานจริง ๆ ควรปิดมือถือหรือเอาออกไปจากห้องประชุมเลย เมื่อพฤษภาคมปี 2018 ผมเดินทางไปเที่ยวกับน้อง ๆ ที่ออฟฟิศที่เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี สิ่งที่ผมและน้อง ๆ ชอบมากที่สุดคือ ที่เขื่อนไม่มีสัญญาณมือถือ บางค่ายมีแบบอ่อน ๆ และไม่ได้มีตลอดทั้งวัน สัญญาณจะมีเฉพาะช่วงกลางวัน เนื่องต้องใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ช่วงกลางคืนพระอาทิตย์หมดจึงไม่มีสัญญาณ เลยทำให้เราไม่ได้ใช้มือถือ
สิ่งที่น่าประทับใจคือ เมื่อเราไม่มีมือถือ เราได้ใช้เวลาร่วมกันจริง ๆ ได้คุยหารือกัน เล่นกัน ไม่มีใครต้องถ่ายรูปแล้วรีบอัปโหลดลงโซเชียล พอเราไม่มีมือถือทุกอย่างดีขึ้นเยอะมาก ผมเองช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำงานคือบนเครื่องบิน เพราะไม่มีสัญญามือถือ ยิ่งเดินทาง 5-6 ชั่วโมง จะสามารถทำงานได้ Productive มาก ๆ
2. 20-45 Minutes Rule
ลดเวลาประชุม จากเดิมที่ใช้เวลา 30 นาที ลดลงเหลือ 20 นาที หรือจากเดิมที่ใช้เวลาประชุม 60 นาที ให้ลองลดลงเหลือ 45 นาที ข้อห้ามเดียวคือ อย่านำเวลาที่ลดลงไปใช้ในการประชุมอื่น ๆ
3. Ask For Deadline
กำหนด Deadline ทุกครั้งเวลาทำงาน ถามคนที่มอบหมายงานว่าต้องการให้เสร็จเมื่อไหร่ ทวนว่าต้องส่งตอนไหน หรือหากเราทำเองต้องกำหนดเลยว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ หลายครั้งที่เราประชุมเสร็จ เรามักแยกย้ายและลืม Next Step ครั้งต่อไป ก่อนประชุมลองถามก่อนว่า Next Step คืออะไร และเสร็จภายในเมื่อไหร่ การมี Deadline จะทำให้เรามีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
4. Do Not Chat Or Check Email During Meeting
การตอบอีเมลหรือแชทจะทำให้เสียสมาธิในการประชุม ไม่โฟกัส และไม่รู้ว่าในห้องประชุมเขาพูดอะไรกัน นอกจากนี้การแชทนั้นอาจไม่ได้ประโยชน์ด้วย รวมถึงอย่าทำเรื่องอื่น ๆ ระหว่างประชุม หากเราลดเวลาประชุมลงแล้วก็ควรโฟกัสกับมัน
5. Remind Yourself: Do Not postpone
เตือนตัวเองไม่ให้เป็นคนผัดวันประกันพรุ่ง การที่เรารีบจัดการแต่ละงานให้เสร็จจะเป็นเรื่องดี ทำให้เราทำงานสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะถึงแม้เราจะผลัดเป็นวันพรุ่งนี้ เราก็จะยังยุ่งอยู่ดี
ถอดความจาก: Morning Call Podcast โดยคุณเก่ง สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม
ฟัง EP. นี้แบบเต็ม ๆ ได้ที่: SOUNDCLOUD, Spotify, PodBean
ติดตาม Creative Talk ได้อีกหลายช่องทาง
- Facebook Creative Talk Live
- Twitter Creative Talk Live
- Instagram Creative Talk Live
บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ
ย้อนดู Consumer Behavior Trend 2018 เทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภค
ย้อนดู เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2018 วันนั้นจนวันนี้ มีอะไรเกิดขึ้นจริงแล้วบ้าง มาดูกัน หมายเหตุ: บทความเมื่อปี 2018 6…
เปิดอาณาจักรต้นกำเนิดช็อกโกแลต มีที่มาที่ไปอย่างไร
ครั้งนี้เราก็ยังอยู่กับเรื่องของช็อกโกแลตกันอีกแล้ว จากตอนเดิมที่แล้วที่มาไขข้อสงสัยกันว่า ทำไมช็อกโกแลตถึงต้องทำเป็นแบบแท่ง และต้องละลายในปาก คราวนี้จะมาพูดถึงขั้นตอนการผลิตช็อกโกแลตกันว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมเราถึงชอบกินมัน ไปจนถึงทำไมสุนัขบางตัวขนมชนิดนี้แล้วเสียชีวิต มาติดตามไปด้วยกัน จุดกำเนิดของช็อกโกแลตมาจากต้นโกโก้ ต้นไม้หน้าตาค่อนข้างประหลาดที่คนชอบกินช็อกโกแลตหลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็นของจริง…
แนะนำ What If? หนังสือที่มุ่งตอบคำถามโง่ๆ จนได้ดี
“What if?” (จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้า…) หนังสือที่รวบรวมคำถามแปลกประหลาด หลุดโลก หรือคำถามที่เราคาดไม่ถึงไว้ด้วยกัน โดยคนตอบหรือผู้ที่เขียนหนังคือเล่มนี้ก็คือ แรนดัลล์ มุนโร…