จากงาน Creative Talk x Startup Thailand 2019 ที่ผ่านมา ใน session Trends Beyond 2019 มีหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจคือ แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในปีนี้ ยาวไปจนถึง 2020 จะเป็นอย่างไร มีสิ่งใดบ้างที่ผู้บริโภคคาดหวังว่าแบรนด์จะต้องมีให้เขาได้ โดย คุณหนึ่ง อัศวิน พานิชวัฒนา Executive Creative Director GREYnJ และ คุณบี สโรจ เลาหศิริ Chief Marketing Officer Rabbit’s Tale ได้แชร์ให้ฟังภายในงาน เราจึงไม่พลาดที่จะสรุปมาให้อ่านกันค่ะ
1. ความเป็นมนุษย์ไม่เปลี่ยน แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือ SubCulture
ไม่ว่าจะอีกกี่ปี โครงของความเป็นมนุษย์ก็จะไม่เปลี่ยน อาจเปลี่ยนแค่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ความต้องการพื้นฐานยังเหมือนเดิม ต้องกิน นอน เข้าสังคม ต้องการความรัก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเรื่องของวัฒนธรรมย่อย (SubCulture) หรือวัฒนธรรมของกลุ่มคนเล็ก ๆ ในสังคม เข้ามามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น กระแสของกลุ่มรักษ์โลก ต่อต้านการใช้พลาสติก หรือต่อต้านการเหยียดสีผิว เป็นต้น ปีที่แล้วอาจเป็นกระแสของการรักษ์โลก แต่ในปีนี้กลับเป็นเรื่องของการรักมนุษย์ด้วยกันและความเท่าเทียมทางสังคม
ดังนั้น สิ่งที่แบรนด์ต้องศึกษาคือเรื่องของ SubCulture เหล่านี้ เพื่อวางแผนในสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะพูดออกไปยังผู้บริโภค
2. ผู้บริโภคคาดหวังว่าแบรนด์ต้องใส่ใจ เรื่องที่สังคมใส่ใจ
ยกตัวอย่าง เรื่องพลาสติก เป็นกระแสดังหลั่งไหลมาจากต่างประเทศ แล้วเกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตที่ทำสินค้าหรือบริการที่ผลิตพลาสติกออกมามากเกินไป หรือหลายแบรนด์ที่ไม่ได้ระวังว่าสังคมกำลังรณรงค์เรื่องอะไรอยู่ สิ่งนี้จึงเป็นแรงผลักดันให้แบรนด์ต้องใส่ใจกับเรื่องที่สังคมกำลังสนใจและให้ความสำคัญ
ดังนั้น หากคุณเป็นธุรกิจที่แก้ปัญหาจุดนี้ได้ จะทำให้ผู้บริโภค สื่อ ประชาชน หรือหลาย ๆ คนที่เป็น Early Adopter (กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มแรก) จะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับแบรนด์คุณได้
3. ผู้บริโภคคาดหวังให้แบรนด์ Transform สู่ Digital ได้แล้ว
ประสบการณ์การใช้ดิจิทัลของผู้บริโภคต้องกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของแบรนด์ไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคคาดหวังว่าเว็บไซต์ของคุณต้องโหลดให้ได้ภายใน 3-5 วินาที หรือคุณต้องมีข้อมูลของเขาพร้อมไว้แล้ว หากวันใดผู้บริโภคโทรไปหา call center ของคุณ
ดังนั้น ถ้าวันนี้คุณยังใช้ระบบ manual ในการบริหาร CRM หรือเว็บไซต์ยังเก่าเหมือนในยุค 2.0 เขาจะจัดให้คุณกลายเป็นแบรนด์ที่อยู่อันดับล่าง ๆ ทันที
4. ผู้บริโภคเริ่มกังวลกับความเป็นส่วนตัวในการเก็บ Data ของแบรนด์มากขึ้น
ปัจจุบันทุกแบรนด์ตื่นตัวกับเรื่องการเก็บ data เริ่มหาวิธีเพื่อขอความยินยอมจากผู้ใช้ในการเก็บข้อมูลส่วนตัว ผู้บริโภคเองจะให้ความสำคัญและกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของการเก็บ data ของแบรนด์มากขึ้น
ดังนั้น แบรนด์จึงต้องกลับมาคิดว่า จะทำอย่างไรเพื่อที่จะขอเก็บ data จากผู้ใช้ด้วยความยินยอมและสบายใจทั้งสองฝ่าย ซึ่งในปีหน้าจะมีเรื่องของ พ.ร.บ.คุุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เข้าไปด้วย แบรนด์จึงต้องมีความระมัดระวังในการเก็บมากขึ้นกว่าเดิม
สรุปคือ เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2019 ยาวไปจนถึง 2020 มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับปัญหาที่สังคมให้ความสนใจอยู่ และคาดหวังให้แบรนด์ต้องใส่ใจกับเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่แบรนด์ต้องทำไม่ใช่การยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองอยากจะพูดให้เขาฟัง แต่เป็นเรื่องของการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภคได้ทราบว่าเขาจะได้อะไรกับไปจากสิ่งที่เรากำลังพูดอยู่ ต้องคิดและทำให้ละเอียดกว่าเดิม
ชมคลิป Creative Talk x Startup Thailand ได้ที่นี่
บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ
Calmtainment เทรนด์ใหม่ความบันเทิงที่นักการตลาดต้องรู้
ความบันเทิงในรูปแบบที่มุ่งเน้นทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น และก็ลดความเครียดในชีวิตประจำวันลง เกิดจาก 2 คำมาผสมกัน
คน 5 แบบที่คุณควรรู้จักเมื่อทำธุรกิจ
เด็ก ๆ เคยได้ยินคำโบราณที่กล่าวไว้ว่า “คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล” ปัจจุบันนี้อาจจะจริง เพียงแค่ครึ่งเดียว คือเรื่องการคบคนพาลนั้นจะพาเราไปเจอเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน แต่ในโลกของธุรกิจปัจจุบันการไปให้ถึงจุดหมายบางอย่างแค่ บัณฑิต อย่างที่โบราณกล่าวไว้อาจไม่เพียงพออีกต่อไป…
ทิศทางและโอกาสทางธุรกิจในปี 2022 จากมุมมองของนักลงทุนระดับประเทศ
อัพเดตโอกาสทางธุรกิจของ Tech Business กำลังจะมาถึงในปี 2022 จากมุมมองของ Investor ระดับประเทศ โดยคุณมด-ธนพงศ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC)