Trending News

Subscribe Now

Sonic Branding และ Motion Design อนาคตของการปั้นแบรนด์

Sonic Branding และ Motion Design อนาคตของการปั้นแบรนด์

Article | Business

คุณรู้หรือไม่ ว่ามนุษย์ใช้เวลาเพียง 0.146 วินาทีในการตอบสนองต่อเสียง และสามารถตอบสนองต่อเสียงได้เร็วกว่าภาพถึง 100 เท่า 

“เสียง” จึงเป็นการรับรู้ที่ไวที่สุดในประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ ในขณะที่ “ภาพเคลื่อนไหว” สร้างภาพจดจำได้ตราตรึงกว่า

Sonic Branding เป็นการสร้างแบรนด์โดยอาศัยเสียงเป็นหลัก ไม่ว่าเสียงนั้นจะเป็น บทเพลง บทพูด ASMR หรือ การฮัมทำนองเพลง เมื่อรวมกับภาพเคลื่อนไหวยิ่งทำให้คนจดจำแบรนด์ได้ดี ถูกต้อง และชัดเจนยิ่งขึ้น 

“เสียงเพลง” สามารถดึงอารมณ์ออกมาได้ดีกว่าสิ่งไหน และอารมณ์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) การใช้ Sonic Branding จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ข้อความ “I’m loving it” ที่มาพร้อมกับจิงเกิ้ลเพลงสุดฮิตของ McDonald’s หรือ การใช้โลโก้เสียงจำเพาะ (Sonic Logo) ของ Mastercard ที่ทำเอาแบรนด์ได้รับรางวัลโลโก้เสียงยอดเยี่ยมจาก World’s Best Audio Brand สองปีซ้อน จาก Amp (เอเจนซี่ที่ให้บริการการสร้างแบรนด์ด้วยเสียง) เพราะฉะนั้นการให้ความสำคัญกับเรื่องเสียงในการสร้างแบรนด์จึงเป็นเรื่องสำคัญมากในยุคนี้

จากสถิติพบว่าเสียงช่วยเพิ่ม การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ได้ถึง 26% และเพิ่มความชื่นชอบในแบรนด์ได้อีก 46% ข้อมูลเพิ่มเติมยังพบว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างเสียงกับการย้อนกลับไปหาประสบการณ์กับแบรนด์นั้นๆ อีกครั้งถึง  86% จึงไม่แปลกใจที่พวกเพลงโฆษณาที่ติดหูเราสมัยยังเด็กก็ยังคงมีผลต่อการนึกถึงแบรนด์ต่อให้เพลงนั้นมันจะดูเฉิ่มและเวลาจะผ่านมานานขนาดไหนก็ตาม แต่เราต่างก็ยังจดจำแบรนด์และเพลงเหล่านั้นได้ดี

ในขณะเดียวกัน Motion Design หรือ การออกแบบภาพเคลื่อนไหวก็ช่วยเสริมการเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้าดื่มด่ำกับความหมาย ขยายขอบเขตตัวตน และเพิ่มปฏิกิริยาตอบโต้ระหว่างแบรนด์และลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโลกดิจิทัล ตัวอย่างที่ดีคือ โฆษณา “Shinjuku Cat” ที่ปรากฏบนป้าย LED ยักษ์ตรงแยกชินจูกุอันพลุกพล่านทำเอาคนเดินผ่านไปผ่านมาต้องตกตะลึงและเหลียวมองจนกลายเป็นกรณีศึกษาให้กับ Netflix และ Vodafone ด้วยภาพโฆษณาเคลื่อนไหวแบบ “3D” 

การโฆษณาให้ได้ผลในยุคใหม่จำเป็นต้องอาศัย “ภาพเคลื่อนไหวและเสียง” มากกว่าภาพนิ่ง เพราะทุกวันนี้เราเห็นโฆษณากันเกิน 5000 ชิ้นต่อวัน และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ทำโฆษณาต้องพยายามดึงความสนใจของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่แบรนด์จะต้องลงทุนกับสองเรื่องนี้เพราะต้องยอมรับกันแล้วว่าทั้งสองสิ่ง คือ “อนาคต” ของการปั้นแบรนด์ 


แล้วแบรนด์คุณล่ะ มีเสียงและภาพแบบไหนกัน 


ที่มาของข้อมูล

Related Articles

ธุรกิจยุคใหม่เมื่องานครีเอทีฟสร้างสรรค์ได้ด้วย AI และ Machine Learning

เราจะมาทำความรู้จักว่า NFT คืออะไร, วิธีการใช้ AI เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ และการ Upload ผลงานศิลปะลงบน NFT กับ คุณมนัสพร ตรีรุ่งโรจน์ (คุณหญิง) แอดมินเพจ Noob Learning

Article | Creative/Design

4 เรื่องที่ควรขี้เกียจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

มันอาจจะดูแปลกสักหน่อยที่กำลังบอกให้ทุกคนลองขี้เกียจดูบ้าง แต่เชื่อหรือไม่ว่าการที่เราเป็นคนขี้เกียจในบางเรื่อง มันจะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น 1. จงขี้เกียจทำงานเยอะ ๆ เมื่อขี้เกียจทำงานเยอะ ๆ ทำงานซ้ำ ๆ…

Article | Podcast | The Organice

5 เคล็ดลับเอาตัวรอดของคน Extroverts ในวันที่กำลังจะเฉาตายจาก Work From Home

LET ME OUT!! ปล่อยฉันออกไปนะ!! นี่คงจะเป็นเสียงกรีดร้องในใจของคน Extroverts หลายคนเมื่อต้อง Work From Home เมื่อพูดถึงเรื่องการทำงานที่บ้านหรือการทำงานแบบ…

Article | Living