ถ้าคุณอยากจะสร้างมิตรภาพกับใครสักคน แน่นอนว่าความสัมพันธ์นั้นมันจะต้องมีอะไรมากกว่าเรื่องของงานหรือว่าเรื่องผิวเผินในชีวิตประจำวัน และมันหมายความว่าในสถานการณ์นี้จะต้องมีใครบางคนที่ลดกำแพงลงหรือแสดงความเปราะบางออกมา เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ในครั้งนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ…
‘Ron Friedman’ นักจิตวิทยาและนักเขียนเจ้าของหนังสือ ‘The Best Place To Work’ บอกว่า องค์ประกอบสำคัญของมิตรภาพมีอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง
- ความใกล้ชิดทางกายภาพ
- ความคุ้นเคยสนิทสนม
- ความคล้ายกัน
และสิ่งสำคัญคือการเติบโตของความสัมพันธ์นั้น ระดับของการเปิดเผยตัวตนต่ออีกฝ่ายก็ควรเป็นสิ่งที่เติบโตไปด้วย และนี่คือ 8 Trick เล็กๆ ที่ CREATIVE TALK อยากแนะนำไว้สำหรับใครก็ตามที่อยากพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนในที่ทำงาน ให้กลายเป็นเพื่อน ‘ในชีวิตจริง’
1. เริ่มจากก้าวเล็กๆ ค่อยเป็นค่อยไป
ถ้าคุณอยากเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน คุณจะต้องขยับความสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องเร่งรัดหรือรีบร้อน เพราะบางครั้งเราอาจจะไม่ทันตระหนักว่าตัวเราได้แสดงนิสัยส่วนตัว หรือเปิดเผยชีวิตส่วนตัวของเราให้กับเพื่อนที่ทำงานไปมากน้อยแค่ไหน และเมื่อเพื่อนร่วมงานกลายมาเป็นเพื่อนในชีวิตจริง บางครั้งมันอาจทำให้คุณสูญเสียการควบคุมความเป็นส่วนตัวของตัวเองในที่ทำงานได้
อาจเริ่มจากอะไรเล็กๆ น้อยๆ เช่นแชร์ความสนใจ แล้วค่อยขยับความสัมพันธ์ไปข้างหน้า จนถึงการเปิดเผยความลับหรือเรื่องส่วนตัว เพราะนั่นเป็นสิ่งที่อ่อนไหวต่ออารมณ์ความรู้สึก และเมื่อนั้นคุณกับเพื่อนก็จะรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นในการจะแบ่งปันเรื่องราวสำคัญในชีวิตของตัวเอง
2. มองหาความสนใจหรือความชอบที่ใกล้เคียงกัน
ความใกล้เคียงหรือความสนใจร่วม คือโครงสร้างพื้นฐานของมิตรภาพ ลองเข้าหาเพื่อนสักคน ด้วยบทสนทนาเกี่ยวกับความสนใจที่มีเหมือนกันกับพวกเขา จะช่วยให้เรามีเรื่องพูดคุยกันมากขึ้นและทำลายกำแพงระหว่างกันได้ง่ายขึ้น
3. มองหาสิ่งที่กำลังต่อสู้ร่วมกัน
บางครั้งคุณอาจมองถึงงานที่ถูกมอบหมายให้ทำร่วมกัน ซึ่งเราต้องการความช่วยเหลือและการร่วมมือจากอีกฝ่าย การที่เรารับรู้อย่างชัดเจนว่าเรากำลังอยู่ทีมเดียวกัน และสถานะเดียวกันจะช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความสัมพันธ์ได้มากขึ้น
4. รักษาปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างกัน
ในหลายครั้งการพูดคุยถกเถียงแลกเปลี่ยนประเด็นทางความคิดมักจะสร้างความรู้สึกในเชิงลบได้ง่ายกว่า การแลกเปลี่ยนความคิดในเชิงบวก แทนการแชร์เรื่องหนักๆ หรือความเครียดในที่ทำงานเพียงอย่างเดียวจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเติมความรู้สึกในเชิงบวกรอบตัว และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้
5. พูดเปิดใจในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน
ยิ่งเราพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานมากเท่าไหร่ ความเป็นไปได้ที่เราจะเป็นเพื่อนกันได้ก็มีมากเท่านั้น คุณอาจพูดถึงเรื่องที่จะทำในสุดสัปดาห์ หรือว่างานอดิเรกและความสนใจต่างๆ ของตัวเอง หรือแม้แต่การเปิดเผยความเปราะบางในใจ จะช่วยสร้างความเข้าใจในความสัมพันธ์ได้
6. อยู่เคียงข้างกันเวลาที่มีปัญหา
มิตรภาพที่ดีนั้นเกี่ยวข้องกับความเชื่อใจ ถ้าคุณอยากให้เพื่อนร่วมงานเชื่อในตัวคุณนอกเหนือจากในเรื่องงาน คุณจะต้องสร้างความมั่นใจว่าคุณจะอยู่ตรงนั้นเพื่อพวกเขา เวลาที่งานมีปัญหาด้วยเช่นกัน เป็นฝ่ายสนับสนุน และให้กำลังใจ ในเวลาที่พวกเขาทำอะไรผิดพลาดหรือต้องการความช่วยเหลือ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ให้ก้าวออกมาพร้อมซัพพอร์ทพวกเขา เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่สายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งได้
7. ใช้เวลาร่วมกัน นอกเหนือจากเรื่องของงาน
แบ่งปันเวลาส่วนตัวที่อยู่นอกเหนือจากเวลางานด้วย เช่นทานมื้อกลางวันด้วยกัน หรือหาเวลาทานข้าวในวันหยุด เพราะการทำความรู้จักใครสักคนนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาไม่น้อย ลองหาเวลาที่จะใช้ร่วมกับพวกเขานอกออฟฟิศดูบ้าง
8. ลองเสี่ยงดูบ้าง เพราะในทุกความสัมพันธ์นั้นมีความเสี่ยง
การทำความรู้จักเพื่อนสักคน ก็เหมือนกับการเดท ลองปล่อยให้ตัวเองไปตามความเป็นไปของมิตรภาพในครั้งนี้ด้วยความเชื่อที่ดี เพราะถ้าคุณได้เสี่ยงในขั้นแรกด้วยการเข้าทำงานในออฟฟิศแห่งนี้แล้ว มิตรภาพที่ดีก็ถือเป็นหนึ่งในการเสี่ยงที่คุ้มค่าเช่นกัน
เนื้อหาบางส่วนจากรายการพอดแคสต์ ‘The ORGANICE 189 – รักษาเพื่อนที่เกิดจากการทำงานได้อย่างไร‘ โดย ฉวีวรรณ คงโชคสมัย
และอ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
- bustle
- businessinsider
ดนตรีสำคัญแค่ไหนกับโฆษณา
ดนตรีหรือเพลงประกอบยังสำคัญกับ Ad แค่ไหน? นี่อาจเป็นคำถามที่น่าสนใจสำหรับคนทำ Ad ยุคนี้ ในโลกที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จริงอยู่ที่ดนตรี หรือ Sound…
ความท้าทายใหม่ของ Digital Transformation ในโลกธุรกิจด้วย AI
การที่ร้านค้าหรือร้านอาหารสามารถตั้งอยู่ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงโลเคชัน เพราะไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสั่งออนไลน์ และร้านก็ส่งให้ได้ถึงที่ เรื่องนี้คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า การปรับตัวให้เข้าสู่ Digital Transformation นั้นเป็นเหมือน “โอกาส” ของธุรกิจ
“เปลี่ยนจุดอ่อน ให้เป็นจุดแข็ง” ด้วยการบอกจุดด้อยของตัวเอง
จุดอ่อนของคุณคืออะไร? ถ้าใครเคยผ่านการสัมภาษณ์งานมาแล้ว หนึ่งในคำถามที่มักจะถูกถามอยู่เสมอก็คือ “จงบอกข้อเสียของคุณ” ดังนั้น เวลาเรากำลังพรีเซนต์อะไรก็ตาม “อย่าลืมนำเสนอจุดอ่อนของเราด้วย” ลองนึกภาพตามว่า ตลอดเวลาที่เรากำลังพูดถึงข้อดีต่าง ๆ…