Trending News

Subscribe Now

Marketing 5.0 : 5 เครื่องมือการตลาด อัปเกรดกลยุทธ์ธุรกิจยุคหน้า

Marketing 5.0 : 5 เครื่องมือการตลาด อัปเกรดกลยุทธ์ธุรกิจยุคหน้า

Article | Digital Marketing

ยุคการตลาด 5.0 ที่กำลังจะมาถึง อาจจะต้องมีหลายประเด็นที่ต้องปรับและอัปเกรดอยู่เสมอ หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องของเครื่องมือการตลาด วันนี้ CREATIVE TALK ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณหนุ่ย การตลาดวันละตอน เกี่ยวกับหนังสื่อเรื่อง Marketing 5.0 ในประเด็นนี้ จึงสรุปมาให้ทุกคนอ่านกันค่ะ

รับชมย้อนหลังได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/creativetalklive/videos/905297963614374
Youtube
https://youtu.be/8XudkB6OZ98

5 เครื่องมือการตลาดที่จำเป็นในยุค Marketing 5.0

1. Data-Driven Marketing

Data-Driven Marketing เป็นสิ่งที่ #นักการตลาด ตื่นตัวกันมาหลายปี และเมื่อ Philip Kotler บิดาแห่งการตลาดยุคใหม่ได้บัญญัติไว้ในหนังสือ Marketing 5.0 : Technology for Humanity ยิ่งช่วยยืนยันว่าเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ Data Ecosystem กลายเป็น New Mass เรื่องพื้นฐานที่ทุกธุรกิจจะต้องทำอย่างเป็นทางการแล้ว

2. Predictive Marketing

นักการตลาดยุคหน้าจะต้องรู้ Data Science หรือร่วมมือกับนักวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสร้าง Machine Learning หรือ AI รวมถึงใช้ IoT เป็นเครื่องมือวิเคราะห์คาดการณ์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต จากการติดตามพฤติกรรม ทำ Personalize เรียนรู้ Insight ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสขายสิ่งที่พวกเขาจะสนใจได้แบบเจาะจงลงลึกในรายละเอียด คำนวณความน่าจะเป็นภายใต้เงื่อนไขที่สลับซับซ้อน

3. Contextual Marketing

Contextual Marketing การนำข้อมูลปัจจัยภายนอกซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้ามาประกอบ

4. Augment Marketing

การนำเทคโนโลยีช่วยคัดกรองข้อมูลเสียงเพื่อตอบสนองการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น พัฒนา chatbot และ virtual assistance เป็นตัวช่วยลูกค้าค้นหา สอบถาม และสั่งซื้อสินค้าได้ทันใจ เป็นต้น

5. Agile Marketing

การทำงานเป็นรอบสั้น ๆ เพื่อทดสอบตลาด จากนั้นจึงจะนำข้อมูลที่สอดคล้องกันมาใช้ในขั้นตอนสุดท้ายที่ #ผู้ประกอบการ จะต้องนำมาทดลอง วัดผล และปรับเปลี่ยนแผนการตลอดเวลา ให้สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนได้

นอกจากนี้แบรนด์ยังต้องมุ่งเน้นการให้บริการ Customer Experience (CX) คอยพัฒนาระบบเพื่อแก้ปัญหาของลูกค้าได้ทันใจ ออกแบบการใช้งานให้ง่ายดาย ลดความซ้ำซ้อนของระบบที่ส่งผลต่ออารมณ์เชิงลบของลูกค้า เช่น เจ้าหน้าที่ควรทราบถึงปัญหาของลูกค้าโดยไม่ต้องเสียเวลาเล่าซ้ำ ตัดความน่ารำคาญใจ และลดเวลารอคอยนานๆ

ยิ่งแบรนด์ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างรู้ใจและใส่ใจเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ใจลูกค้ามากเท่านั้น ทว่าเหรียญนั้นมีสองด้านเสมอ เมื่อเราผู้บริโภคถูกเสิร์ฟสิ่งใหม่ที่ชื่นชอบให้อยู่ตลอดเวลา ก็เหมือนกินอาหารตามใจปาก หากคุณสั่งชานมไข่มุกกินทุกวัน เผลอๆ น้ำหนักก็จะเกินแบบไม่รู้ตัว ส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย

เช่นเดียวกับโอกาสที่โลกทุนนิยมจะไล่ต้อนเรา เหมือนฉากหนึ่งในนวนิยายวิทยาศาสตร์โลก Dystopia ที่ชนชั้นกลางจะล่มสลายหายไป เราถูกทำให้ชนชั้นเหลือแค่คนรวยตลาดบนกับคนจนตลาดล่าง เราจึงต้องตระหนักรู้เท่าทัน ไม่ให้ด้านมืดของเทคโนโลยีที่บริษัทต่างๆ ใช้กับเรา มามีอิทธิพลครอบงำหรือย้อนกลับมาทำร้ายเรา ลองนึกดูว่าโลกจะแคบลงไปถนัดตา ถ้าปล่อยให้ตัวเองเชื่อแค่สิ่งที่เราอยากจะเชื่อ

ผู้บริโภคจึงจำเป็นต้องคอยตรวจสอบทบทวนจริยธรรมการใช้เทคโนโลยีขององค์กรชั้นนำ และเป็นฝ่ายกำหนดว่าแบรนด์ที่เรารักจะต้องดีต่อโลกอย่างไร แบรนด์ไหนเลือกยืนอยู่เคียงข้างเรา ชาวโซเชียลก็พร้อมจะช่วย #SAVE ปกป้องธุรกิจนั้นให้ยืนยาวต่อไป

คุณสามารถฟังสปอยหนังสือ Marketing 5.0 ของ Philip Kotler กันก่อนครึ่งเล่มกับคุณหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทํา (การตลาดวันละตอน) ได้เต็มๆ ที่นี่

Related Articles

ทำงาน 5 วันไปทำไม เมื่อทำสัปดาห์ละ 4 วันดีกว่า

ใครอยากหยุดอาทิตย์ละ 3 วัน ทำงานอาทิตย์ละ 4 วันบ้าง ยกมือขึ้น! หากถามแบบนี้ไม่ว่าพนักงานคนไหนก็ต้องรีบยกมือยิ้มรับแน่

Article | Living

Reverse Psychology หลักจิตวิทยาการตลาดยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ

เป็นกันไหมคะ ที่ยิ่งโดนห้ามก็เหมือนยิ่งทำให้เรารู้สึกอยากจะทำสิ่งนั้นมากกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกเราอาจจะไม่ได้รู้สึกอยากทำสิ่งนั้นเลยด้วยซ้ำ

Article | Digital Marketing

5 ข้อมัดใจลูกน้องคนเก่ง ในยุคไฮบริดออฟฟิศ

รู้หรือไม่!? มีแค่ 1 ใน 3 ของพนักงานบริษัทเท่านั้นที่ไว้วางใจในตัวหัวหน้าของพวกเขา งานวิจัยของ Gallup ยืนยันว่าเหล่ามนุษย์ออฟฟิศคนเก่งกว่า 67%…

Article | Living