5 เว็บไซต์เช็ก Grammar เปลี่ยนการเขียนให้ดูดีอย่างมืออาชีพ

เรื่อง: ดวงพร วิริยา

ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร หากว่าในทุก ๆ วันจะต้องอยู่กับตัวหนังสือและการพิมพ์งาน ความถูกต้องของการเขียนนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกได้ว่าคุณมีความละเอียดรอบคอบกับงานขนาดไหน โดยเฉพาะภาษาที่สองอย่างภาษาอังกฤษ ซึ่งในการทำงานหลายบริษัทอาจใช้เป็นภาษาหลักในการสื่อสารด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็การเขียนอีเมลโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นจะปฏิเสธว่าไม่รู้ ก็คงจะไม่ได้

วันนี้เราจึงรวม 5 เว็บไซต์เช็ก grammar ภาษาอังกฤษมาแนะนำ เพื่อเป็นตัวช่วยในตรวจคำศัพท์ การสะกดคำและใช้ประโยคให้ถูกตามหลักไวยกรณ์ จากที่ทดลองใช้แล้วคิดว่าดีและน่าใช้มาก ๆ ไปเริ่มกับเว็บไซต์แรกกันเลย

GradeProof

มีแบบใช้ฟรีและเสียค่าใช้ัจ่าย
เสียค่าใช้จ่าย มี 3 แบบ

• $24.95 USD/เดือน 
• $14.95 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 3 เดือน) 
• $9.95 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 1 ปี) 

GradeProof (www.gradeproof.com) สำหรับเวอร์ชันฟรี การใช้งานสามารถใช้ได้ในส่วนการตรวจคำศัพท์และการสะกดคำ ซึ่งยังค่อนข้างจำกัดการใช้งาน 

แต่หากใช้งานแบบ premium จะมีฟังก์ชันที่น่าสนใจมาก ๆ เช่น การตรวจคำซ้ำ คำฟุ่มเฟือย การใช้เครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ และ Plagiarism Check ที่จะช่วยตรวจสอบเนื้อหาในบทความเราว่าซ้ำกับบทความในเว็บไซต์อื่น ๆ มากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวคิดว่าเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนทำคอนเทนต์ออนไลน์ เพราะเป็นที่รู้ ๆ กันว่า Google ชอบความสดใหม่ของเนื้อหาและไม่คัดลอกมาจากที่อื่น

สามารถใช้งาน GradeProof ได้ผ่านทางเว็บไซต์ หรือติดตั้ง extension บนเบราว์เซอร์ Chrome หรือ Google Doc ด้วยการติดตั้งผ่าน Google Store รวมทั้งมีให้ติดตั้งใน MS Office และแอปพลิเคชันบน iOS

Grammarly

มีแบบใช้ฟรีและเสียค่าใช้ัจ่าย
เสียค่าใช้จ่าย มี 2 แบบ คือ สำหรับใช้ส่วนตัวและในระดับธุรกิจ

•  แบบใช้ส่วนตัว
  • $29.95 USD/เดือน 
  • $19.98 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 3 เดือน) 
  • $11.66 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 1 ปี) 
• แบบใช้ในธุรกิจ ขั้นต่ำ 3 คน ขึ้นไป
  • $25 USD/คน/เดือน 
  • $15 USD/คน/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 1 ปี)

Grammarly (www.grammarly.com) เว็บไซต์เช็ก grammar ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้อย่างมาก ช่วยตรวจความถูกต้องของคำศัพท์ การสะกดคำ การใส่เครื่องหมายวรรคตอน มีไฮไลท์คำที่ผิด เมื่อกดแก้ไขจะมีกล่องข้อความบอกด้วยว่า คำนั้นผิดเพราะอะไร อีกทั้งยังอัปโหลดไฟล์เอกสารเพื่อแปลได้อีกด้วย

สำหรับแบบ premium จะเพิ่มการใช้งานที่ช่วยปรับคำซ้ำ คำฟุ่มเฟือย เรียบเรียงประโยคที่ผิดหลักไวยกรณ์ คำศัพท์บางคำที่ใช้แล้วดูไม่สุภาพ รวมทั้ง Plagiarism Check หากใครยังไม่มั่นใจก็สามารถส่งบทความให้ทีมงานที่เป็นคนจริง ๆ ตรวจได้เลย

การใช้งาน Grammarly สามารถติดตั้ง extension ได้บนเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox, Safari, และ IE เพื่อใช้กับ Google Doc ได้ รวมทั้งมีให้ดาวน์โหลดสำหรับ macOS และ Windows แต่ถ้าใครที่อยากติดตั้งไว้ใช้บนสมาร์ทโฟนก็มีให้ดาวน์โหลดบน  iOS และ Android ด้วยนะ

Ginger Software

มีแบบใช้ฟรีและเสียค่าใช้ัจ่าย
เสียค่าใช้จ่าย มี 2 แบบ คือ สำหรับใช้ส่วนตัวและในระดับธุรกิจ

• แบบใช้ส่วนตัว
  • $29.96 USD/เดือน 
  • $19.98 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 3 เดือน) 
  • $12.48 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 1 ปี) 
  • $9.99 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 2 ปี) 
• แบบใช้ในธุรกิจ ขั้นต่ำ 3 คน ขึ้นไป
  • $9.99 USD/คน/เดือน

Ginger Software (https://www.gingersoftware.com/) สำหรับเวอร์ชันฟรีจะช่วยเช็กเรื่องของคำศํพท์และการสะกด สามารถนับจำนวนคำและตัวอักษร มีแถบกล่องสำหรับค้นหาคำศัพท์ คำพ้องความหมายและแปลภาษา รวมทั้งหากอยากโน้ตคำศัพท์เก็บไว้ใช้ส่วนตัวก็สามารถทำได้ แต่ยังจำกัดจำนวนคำและภาษาที่สามารถแปลได้

สำหรับเวอร์ชัน premium สิ่งที่จะได้เพิ่มเข้ามาคือ สามารถเช็กได้ไม่จำกัดจำนวนคำ ช่วยปรับประโยคที่ผิดไวยกรณ์ และเพิ่มการแปลภาษาได้ถึง 40 ภาษา อีกทั้งยังมี Text reader ที่ช่วยอ่านออกเสียงประโยคที่เราเขียนไปได้อีกด้วย

Ginger Software รองรับการติดตั้ง extension บนเบราวซ์เซอร์ Chrome และ Safari แต่ยังไม่รองรับให้ใช้รวมกับ Google Doc แต่สามารถดาวน์โหลดใช้บน Windows ได้ และยังมีให้โหลดแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทั้งระบบ iOS และ Android

LanguageTool

มีแบบใช้ฟรีและเสียค่าใช้ัจ่าย
เสียค่าใช้จ่าย มี 2 แบบ คือ สำหรับใช้ส่วนตัวและในระดับธุรกิจ

• แบบใช้ส่วนตัว
  • $19 USD/เดือน ประมาณ 583 บาท
  • $13 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 3 เดือน) 
  • $4.99 USD/เดือน (เมื่อซื้อแบบ 1 ปี) 
• แบบใช้ในธุรกิจ
  • $29 USD/เดือน สำหรับการเข้าใช้ 250 คน/วัน 
  • $39 USD/เดือน สำหรับการเข้าใช้ 500 คน/วัน 
  • $59 USD/เดือน สำหรับการเข้าใช้ 1,000 คน/วัน 
  • $99 USD/เดือน สำหรับการเข้าใช้ 2,500 คน/วัน

LanguageTool (www.languagetool.org) เว็บไซต์เช็ก grammar ช่วยเช็กคำศัพท์และการสะกดคำ ปรับประโยคการใช้ให้เหมาะสม แต่สิ่งที่ต่างออกไปของ LanguageTool นั้นไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ แต่ยังรวมไปถึง German, Spanish, French และอื่น ๆ ซึ่งในเวอร์ชันฟรีจะจำกัดแค่เพียง 20,000 ตัวอักษร

ส่วนแบบ Premium ที่เพิ่มขึ้นมาคือ เช็กได้ตั้งแต่ 40,000 ตัวอักษร ตรวจหาคำผิดสำหรับเพศของคำนามในภาษาเยอรมัน (Das, Der, Die) ซึ่งดูแล้วเหมาะกับคนที่เน้นใช้ภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันเป็นอย่างมาก

สามารถติดตั้ง LanguageTool ผ่าน extension บนเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox แต่หากต้องการเชื่อมต่อใช้กับ Google Doc ต้องทำการติดตั้งผ่าน Google Store ในส่วนของแอปพลิเคชันมีให้บริการเฉพาะบน Android

ProWritingAid

มีแบบใช้ฟรีและเสียค่าใช้ัจ่าย 
เสียค่าใช้จ่าย มี 2 แบบ คือ Premium และ Premium +

• Premium
  • $60 USD/ 1 ปี 
  • $90 USD/ 2 ปี 
  • $120 USD/ 3 ปี 
  • $210 USD ใช้ได้ถาวร
• Premium + (สามารถใช้ Plagiarism Check)
  • $70 USD/ 1 ปี
  • $110 USD/ 2 ปี 
  • $150 USD/ 3 ปี 
  • $320 USD ใช้ได้ถาวร

ProWritingAid (www.prowritingaid.com) สำหรับเว็บไซต์เช็ก grammar อันสุดท้ายที่เรานำมาแนะนำ คือ ProWritingAid เช็กได้ค่อนข้างละเอียดมาก เช่น การเขียนผิดไวยกรณ์ การสะกดผิด การใช้คำศัพท์ที่ไม่เหมาะกับประโยคหรือไม่ค่อยสละสลวย คำซ้ำ คำฟุ่มเฟือย ประโยคที่ยาวเกินไปและอ่านยาก ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถใช้ได้ในแบบเวอร์ชันฟรี

ที่เพิ่มขึ้นมาในส่วนของ premium คือ ไม่จำกัดคำในการตรวจ มีระบบ Plagiarism Check และสามารถดาวน์โหลดใช้ได้บน Desktop ซึ่งในขณะที่แบบฟรีใช้ได้เฉพาะบนออนไลน์เท่านั้น

ติดตั้งใช้งาน ProWritingAid ผ่าน extension บนเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox และ Safari ได้เลย หรือติดตั้งผ่าน Google Store เพื่อใช้กับ Google Doc และดาวน์โหลดใช้บน Desktop ได้ แต่ยังไม่มีให้บริการบนสมาร์ทโฟน

ความคิดเห็นของผู้เขียน

หลังจากที่ได้ลองใช้ทั้ง 5 เว็บไซต์นี้แล้ว ส่วนตัวคิดว่า Grammarly ตอบโจทย์การใช้งานตัวเองมากที่สุด เพราะเป็นคนที่ชอบพิมพ์งานบน Google Doc มากกว่า ซึ่ง Grammarly เปิดใช้งานได้เลยแค่ติดตั้ง extension โดยที่ไม่ต้องไปเพิ่มจาก Google Store แล้วก็ยังมีเป็นแอปพลิเคชันแบบฟรีให้ใช้ เวลาที่อยากจะโพสต์ภาษาอังกฤษบน Facebook ก็รู้สึกว่าสะดวกและมั่นใจมากกว่าเดิม

แต่ถ้าใช้ออนไลน์บนเว็บไซต์คิดว่า ProWritingAid น่าสนใจมากทีเดียว เพราะแบบฟรีตรวจได้ค่อนข้างละเอียดมาก ชอบมาก ๆ ตรงที่ช่วยตรวจประโยคที่เราเผลอเขียนจนยาวยืดและอ่านยาก ให้ดูดี อ่านเข้าใจง่าย

สุดท้ายไม่ว่าเราจะเลือกใช้เว็บไซต์ไหน ก็ล้วนแต่เป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับช่วยตรวจงานเขียนของเราให้มีความแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วกว่าที่จะต้องกลับไปเปิดหนังสือดู ผู้เขียนเองหวังว่า 5 เว็บไซต์เช็ก grammar ที่นำมาฝากกันวันนี้จะถูกใจทุกคนกันนะคะ อยากให้ไปลองใช้กันดู รับรองว่าจะช่วยให้งานเขียนของคุณออกมาได้ดูดีอย่างมืออาชีพแน่นอน

บทความที่เราแนะนำ

• Ask Google for Answer เสิร์ชอย่างไรให้ได้คำตอบตรงคำถาม?
• ถอดรหัส Error Code โค้ดที่คนใช้บราวเซอร์ควรรู้
• อัดแน่น ! รวมเครื่องมือฟรีหา Audience Insights