Trending News

Subscribe Now

5 พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปที่คุณต้องรู้ หากเปิดประเทศในเร็ว ๆ นี้

5 พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปที่คุณต้องรู้ หากเปิดประเทศในเร็ว ๆ นี้

Article | Business

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงเกือบสองปีที่ผ่านมา ทำให้วิถีชีวิตของคนเราเปลี่ยนไปในแทบจะทุก ๆ ด้านของชีวิต

เริ่มตั้งแต่ การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ การล้างมือบ่อย ๆ รวมไปถึงการรักษาระยะห่างทางสังคม และเมื่อมีมาตรการล็อกดาวน์ทำให้เราต้องเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานจากทำในออฟฟิศ มาเป็นทำที่บ้าน การจับจ่ายใช้สอยก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นแบบออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น เราแทบไม่ได้ออกไปไหน ในช่วงแรกก็อาจจะยังมีความไม่ชินอยู่บ้าง แต่เมื่อเราต้องเจอสถานการณ์การล็อกดาวน์นี้หลายครั้งเข้าก็ทำให้เราเริ่มชินและบางคนถึงกับชอบพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปด้วยซ้ำ

แน่นอนว่ามาตรการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลในเรื่องของการควบคุมจำนวนการแพร่กระจายไวรัส แต่ก็ส่งผลกระทบให้กับสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกพอสมควร การกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งจึงเป็นสิ่งจำเป็น

แต่คำถามก็คือ เมื่อเปิดประเทศแล้ว พฤติกรรมต่าง ๆ ที่เราทำกันในช่วงล็อกดาวน์นั้นจะกลายมาเป็นนิสัยถาวรของเราหรือไม่ 


งานวิจัยจากต่างประเทศแสดงให้เห็นถึง 5 พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คือ

  1. การหันมาใช้เครื่องมือดิจิตอลนั้นมีเพิ่มขึ้น เพราะเราไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ข้างนอกได้เหมือนแต่ก่อน ทำให้เราหันมาพึ่งพา ดิจิตอลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการทำงาน การซื้อของ หรือการใช้ชีวิตปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
  2. รูปแบบการเคลื่อนย้ายเปลี่ยนไป หลังจากการล็อกดาวน์ทำให้เราไม่ต้องเดินทางเพื่อไปประชุมอีกต่อไปแล้ว เราสามารถติดต่อพูดคุยงานกันผ่านทาง Virtual Conference ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางนาน ๆ หรือรถติด
  3. พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ช่องทางการซื้อของสำหรับผู้บริโภคก็มีหลากหลายมากขึ้นด้วย อารมณ์ที่อยากจะเดินห้างหายไป ต่อให้ได้ไปก็ไม่อยากอยู่ในห้างนาน การซื้อของผ่านออนไลน์ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบราคา คุณภาพ และบริการก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้ Brand Loyalty ของผู้บริโภคลดลงตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  4. ผู้คนใส่ใจสุขอนามัยส่วนตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำ การล้างมือบ่อยอย่างสม่ำเสมอ ฉีดแอลกอฮอล์สเปรย์ทุกการสัมผัสที่ทำได้ หรือแม้กระทั่งใส่ใจสุขภาพอาหารการกินเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกายด้วย
  5. ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลลเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นระหว่างเพื่อน หรือ คนใกล้ตัว ในช่วงที่เกิดโรคระบาดนี้ จำนวนตัวเลขคู่หย่าร้างเพิ่มขึ้น

ที่จริงแล้ว หากเราสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปทั้ง 5 ด้านนี้กลับมีส่วนที่เกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เมื่อคนเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปหาเครื่องมือดิจิตอลมากขึ้น ก็ทำให้การเดินทางเพื่อไปประชุมหรือพบเจอเพื่อนสามารถทำได้เพียงปลายนิ้วมือ พฤติกรรมการบริโภคก็เช่นกันที่คนหันมาจับจ่ายใช้สอยออนไลน์มากขึ้นก็เพราะเราหันมาใช้ Digital Platform ต่าง ๆ มากขึ้นด้วย 

แน่นอนว่าประสบการณ์ที่เราพบเจอในช่วงโรคระบาดนี้กำลังเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตของเราไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ไม่ว่าพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด นักการตลาดและผู้ประกอบการก็ควรจะเข้าใจวิถีของผู้บริโภคให้ดี เพื่อที่จะคว้าโอกาสที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ถูกจุด ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 นี้

Related Articles

The Last Straw – แมคโดนัลด์ ใช้หลอดกระดาษ สร้างการเปลี่ยนแปลง

เรียกได้ว่ามีการตื่นตัวและลงมือทำจริงแล้ว สำหรับ Mc Donald’s ทุกสาขาในอังกฤษและไอร์แลนด์ ประกาศเริ่มใช้หลอดกระดาษที่มีคุณสมบัติย่อยสลายได้ง่ายแทนพลาสติกในเดือนกันยายนนี้ เพื่อช่วยลดปัญหาขยะในท้องทะเล นอกจากนี้ร้านอาหารต่าง ๆ ทั่ว UK…

Article | Digital Marketing

3 เรื่องควรรู้ก่อนจะหวังให้ยอดขายปังบนออนไลน์

เนื่องจากเมื่อช่วงอาทิตย์ก่อนผมได้แชร์บน Facebook ของตัวเองเกี่ยวกับ Performance ของทีมงานที่ช่วยทำยอดขายให้ลูกค้าเทียบกับงบประมาณโฆษณาได้ 20 เท่า หรือที่เรียกกันในวงการว่า 20x ROAS…

Article | Digital Marketing

The Light Pin Project ไม้หนีบผ้าโซลาร์เซลล์

จากวิกฤตด้านพลังงานของผู้ลี้ภัยเลบานอน มีไฟฟ้าใช้เพียง 6 ชั่วโมงต่อวัน พวกเขาจึงเลือกใช้โคมไฟน้ำมันก๊าดและเทียนให้เด็ก ๆ ได้มีแสงไฟได้เรียนหนังสือและทำการบ้าน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเชื้อเพลิงอันตรายเกิดลุกไหม้รุนแรงถึงขั้นส่งผลกระทบถึงสุขภาพและการการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เพราะสารจากน้ำมันก๊าด “The…

Article | Technology