Trending News

Subscribe Now

4 เรื่องที่ควรขี้เกียจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

4 เรื่องที่ควรขี้เกียจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

Article | Podcast | The Organice

มันอาจจะดูแปลกสักหน่อยที่กำลังบอกให้ทุกคนลองขี้เกียจดูบ้าง แต่เชื่อหรือไม่ว่าการที่เราเป็นคนขี้เกียจในบางเรื่อง มันจะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น

1. จงขี้เกียจทำงานเยอะ ๆ

เมื่อขี้เกียจทำงานเยอะ ๆ ทำงานซ้ำ ๆ เราจะพยายามหาวิธีที่ดีที่สุด เร็วที่สุด มีแบบแผนที่ดี เพื่อให้เราทำงานให้น้อยที่สุด ซึ่งความขี้เกียจทำงานแบบนี้นี่แหละ ที่จะพาเราไปพบกับตัวช่วยเหล่านี้

เราจะรู้จักใช้ “Canvas” ในที่นี้หมายถึง “แบบแผน” หรือ “แบบแปลนสำหรับการทำงาน” ว่าเราต้องทำอะไรก่อน – หลัง และ Canvas ที่ดี ยังมีส่วนช่วยให้เราไม่ลืมคิดถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางเรื่องอีกด้วย

เราจะรู้จักถามหัวหน้างาน ถึงวิธีการทำงานที่เร็วที่สุด ดีที่สุด หรือศึกษารูปแบบการทำงานเฉพาะตัวของบริษัทเรา เราจะได้ปรับตัวและทำงานได้เร็วเร็วขึ้นนั่นเอง

เราจะรู้จักลิสต์ “สิ่งที่ได้เรียนรู้” การเขียนออกมาจะช่วยย้ำเตือนว่า เราทำงานนี้แล้วเรามีอะไรที่ชอบ และไม่ชอบ รวมถึงอะไรที่เราได้เรียนรู้จากการทำงานนั้น ๆ เพื่อที่ว่า ถ้าเรามีโอกาสได้ทำงานนี้อีกครั้ง เราก็จะทำงานได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

2. จงขี้เกียจทะเลาะกับคน

การที่เราไม่อยากมีปัญหากับคนอื่น มันจะทำให้เราพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดในการคุยกับคนอื่น มันจะทำให้เรารู้จักฟังให้มาก ฟังเพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติของคนนั้น ๆ แล้วเราก็สื่อสารออกไปอย่างที่ควรจะเป็น แยกแยะอารมณ์ออกจากคำพูดที่เราอยากจะสื่อสารออกไป เรื่องนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะในยุคนี้ที่เราใช้การพิมพ์ข้อความหากันมากขึ้น ซึ่งการสื่อสารผ่านข้อความแบบนี้แหละ มีโอกาสอย่างมากที่จะถูกตีความผิดไป

3. จงขี้เกียจหาของ

ถ้าเราขี้เกียจหาของบ่อย ๆ เราก็หาวิธีเก็บของให้เป็นระเบียบแทนสิ ทำได้ง่าย ๆ เช่น .ลองวางของที่ใช้ด้วยกัน ไว้ใกล้ ๆ กัน หรือเคลียร์ของที่ไม่ได้ใช้อยู่เสมอ ๆ อาจจะมีการตั้งเวลาไว้เลยว่า ทุก ๆ หนึ่งสัปดาห์เราจะเคลียร์ของในกระเป๋าทำงาน และอีกวิธีหนึ่งคือ ลองใช้ Tag หรือ Label สำหรับการแปะไปกับสิ่งของต่างๆ ในที่ทำงาน และจัดกลุ่มสิ่งของเหล่านั้น เพื่อให้เราหาของง่ายขึ้น

4. จงขี้เกียจทำงานเอง

การขี้เกียจแบบนี้จะบังคับให้คุณหาวิธีแจกจ่ายงานไปให้กับคนที่เหมาะสม ย้ำกับตัวเองเสมอว่า เรามีเป้าหมายอะไรอยู่ ในงานนั้น เราต้องแน่ใจว่าใน Job Description ของเรา มีการกำหนดเนื้องานไว้อย่างไร เพื่อที่เราจะได้ทำงานให้ตรงกับเป้าหมายของงานนั้นๆ เราจะได้ตอบตัวเองถูกว่า งานแบบนี้ เราควรปฏิเสธ หรืองานแบบนี้เราควรทำ

สุดท้ายคือ เราต้องเชื่อใจในเพื่อนร่วมงาน ข้อนี้สำคัญมากกับคนที่เป็น Senior ในทีม หรือ Manager ที่มีน้องๆ ให้ดูแล เพราะถ้าบางทีเราไม่เชื่อในตัวเขา เราก็จะพยายามทำงานนั้นอยู่คนเดียว กลับกลายเป็นว่า เราต้องทำทั้งงานของตัวเอง และงานของน้อง ๆ ในทีม.เห็นแบบนี้แล้ว หวังว่า เพื่อน ๆ จะอยากเป็นคนขี้เกียจกันบ้าง ในบางเรื่องก็ได้นะครับ

ถอดความจาก The Organice Podcast
เรียบเรียงโดย สนธยา สุตภักดิ์

Related Articles

3 กุญแจสำคัญที่องค์กรควรปรับให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไว

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของผู้คน สภาพสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่รวดเร็วแบบไม่อาจคาดการณ์ได้ ไหนจะวิกฤตโรคระบาดและผลกระทบต่างๆ

Article | Business

สำรวจงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 48 จาก On Ground สู่ Online กับ 5 สำนักพิมพ์

ช่วงปลายมีนาคม-เมษายน และตุลาคมเป็นช่วงที่เหล่าหนอนหนังสือต่างตั้งหน้าตั้งรอคอยงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและนานาชาติที่อิมแพ็คเมืองทองธานี เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความคึกคักของทุกสำนักพิมพ์ที่ต่างพากันเข็นหนังสือเล่มใหม่มาอวดโฉม และนักเขียนรอการพบปะ พูดคุยกับแฟนหนังสือของตัวเอง แต่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 48 นี้ต้องพับงานไปอย่างน่าเสียดายด้วยสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ไม่เป็นใจ ถึงอย่างนั้นก็ตามสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศ…

Digital Marketing

3 สัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่า วัฒนธรรมองค์กรของเรากำลังมีปัญหา

เมื่อวัฒนธรรมองค์กรแย่ ๆ ทำให้ธุรกิจตกต่ำลงหรือเติบโตช้า ผู้บริหารส่วนใหญ่สามารถมองเห็นปัญหาและรู้ได้ว่าต้นเหตุจากวัฒนธรรมองค์กร แต่ก็มีอีกหลายธุรกิจที่ยังดำเนินต่อไปได้ กับปัญหาที่ซ่อนเร้นไว้เป็นเหมือนเนื้อร้ายที่ค่อย ๆ กัดกร่อนจิตใจพนักงานและองค์กรลงเรื่อย ๆ คำถามคือ…

Article | Entrepreneur