ในช่วง 10 ปีมานี้ โลกของเราก็ได้ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว มีธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อช่วยให้ผู้คนสะดวกสบายยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นคือแอปเดลิเวอรี แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากพวกเขานับว่าเป็นผู้ช่วยของผู้บริโภค ทั้งการเดินทาง สั่งอาหาร ช้อปซูเปอร์มาร์เก็ต ตั้งแต่ร้านค้าจนถึงหน้าประตูบ้าน ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน
ที่ผ่านมามีเดลิเวอรีหลายแพลตฟอร์ม ได้มาเปิดตัวในไทยอย่างต่อเนื่อง บ้างก็สำเร็จ บ้างก็ล้มหายตายจากไป เดลิเวอรีจึงกลายเป็นตลาดปราบเซียนที่ไม่ว่าจะเบอร์ใหญ่แค่ไหน อย่างไรก็ต้องขาดทุน เพียงแต่ใครจะขาดทุนมากน้อยก็เท่านั้น
จากการจัดอันดับของ Momentum Works ปัจจุบัน Grab นับว่าเป็นแพลตฟอร์มเดลิเวอร์รีอันดับ 1 ของไทยที่กินส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าแพลตฟอร์มเจ้าอื่น แม้จะยืนหนึ่งมาตลอด แต่ Grab ก็ยังคงขาดทุนต่อเนื่องมานานหลายปี
ในปีนี้ ด้วยวาระครบรอบ 10 ปีของ Grab พวกเขาจึงหมายมั่นว่านี่จะเป็นปีแรก ที่ Grab จะทำให้แพลตฟอร์มของตัวเองได้รับกำไร โดยใช้แนวคิด 3P มาขับเคลื่อนองค์กร
#PROFIT
Grab มุ่งมั่นเป็นแพลตฟอร์มที่จะทำกำไรให้ได้ในปีนี้ โดยนายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่าในปัจจุบันมีตลาดเดลิเวอรีมากมายที่เปิดขึ้นมา ซึ่ง Grab ก็เป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่ที่ยังคงขาดทุนอยู่ ยิ่งขาดทุนนานเข้า โอกาสที่นักลงทุนจะถอยออกก็มีสูง และอาจทำให้บริษัทอยู่ในความเสี่ยง หากวันหนึ่งบริษัทปิดฟ้าผ่า ผู้คนหลายหมื่นคนจะเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างทางเศรษฐกิจ นั่นทำให้ Vision ในปีนี้ Grab จึงตั้งเป้าว่าจะต้องคว้ากำไรมาให้ได้
#PLANET
จากการที่มีไรเดอร์อยู่ในทะเบียนของ Grab กว่าหมื่นคน แน่นอนว่า Grab เองก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่สร้างมลพิษต่อโลกอย่างเลี่ยงมากมาย และเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น ดังนั้นแล้ว Grab จึงพัฒนารถ EV ของตน และชูให้คนขับเปลี่ยนไปใช้รถ EV ซึ่งพวกเขาตั้งเป้าว่าในปี 2025 จะเปลี่ยนรถในแพลตฟอร์มของตัวเองอย่างน้อย 10% มาเป็นรถ EV เพื่อสิ่งแวดล้อมและโลกที่ยั่งยืนขึ้น
#PEOPLE
‘ก่อนให้คนอื่นมารัก เราต้องทำตัวน่ารักก่อน’ หลักการใหม่ที่คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ ตั้งเป้าหมายเอาไว้
เพราะด้วยความที่ Grab เองก็เป็นองค์กรใหญ่ พวกเขาจึงอยากเชื่อมคนทั้งหลายด้วยหลักการนี้ เริ่มที่ตนเองนั้น พวกเขาก็ต้องการให้องค์กรของตัวเองเน้นความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลในองค์กร เพื่อสื่อสารให้คนเข้าใจว่า Tech Company ที่ดีเป็นอย่างไร
นอกจากนั้น Grab ก็ยังตั้งเป้าว่า พวกเขาจะสร้าง Happy Circle ขึ้นมา เพื่อทำให้วงจรการทำงานโดยรอบขององค์นั้นมีแต่ความสุข เมื่อคนขับมีความสุขก็จะส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ให้คนซื้อ และทำให้ลูกค้า ซื้อจำนวนที่มากขึ้นกับร้านค้า และ Grab เองก็จะได้สร้างกำไรจากความสุขที่เกิดขึ้นมานี้ด้วย
Grab หมายมั่นว่า Vision เหล่านี้ จะช่วยส่งเสริมไลฟ์สไตล์ของโลกยุคใหม่ และตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่จะอยู่ในใจทุกคน เราก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า แนวคิด 3P จะพาธุรกิจของพวกเขาเติบโตอย่างไรต่อไป