Trending News

Subscribe Now

เคยเป็นไหมเวลาที่ทำงานแล้วสมาธิสั้น ไม่สามารถโฟกัสกับการทำงานได้แบบยาวๆ – แนะนำ 11 แอปฯ ที่ช่วยให้คุณโฟกัสงานได้ดีขึ้น

เคยเป็นไหมเวลาที่ทำงานแล้วสมาธิสั้น ไม่สามารถโฟกัสกับการทำงานได้แบบยาวๆ – แนะนำ 11 แอปฯ ที่ช่วยให้คุณโฟกัสงานได้ดีขึ้น

Article | Living

ทำงานไปแล้วก็มีแจ้งเตือนจากแอปฯ ต่างๆ มาทำให้สมาธิหลุด ไหนจะเรื่องต่างๆ ที่ต้องทำในแต่ละวัน ที่ทั้งเยอะและเร่งให้เราต้องจัดการแบบไม่ให้ตกหล่น

หากใครประสบปัญหาเหล่านี้ ลองมารู้จักกับ ‘11 แอปพลิเคชั่น’ ที่ได้รับการจัดอันดับจากการใช้งานจริง มีรีวิวฟีเจอร์เจ๋งๆ แถมยังใช้งานง่าย ซึ่งทั้ง 11 แอปฯ นี้มีทั้งแบบใช้งานได้บนระบบ Android และ iOS หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กับไม่พลาดเรื่องสำคัญได้


1. Any.do (iOS & Android)

แอปฯ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตัวนี้ มีผู้ใช้งานกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก และได้รับการการันตีจากทั้ง NY Times, The Wall Street Journal, USA Today และ Lifehacker 

ซึ่งแอปฯ นี้สามารถเป็นทั้ง To-Do List หรือ ปฏิทิน ไว้วางแผนและเตือนการทำงานได้ภายในแอปฯเดียว แถมยังเชื่อมต่อได้ไม่สะดุดไม่ว่าคุณจะใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือ แท็บเล็ต นอกจากนี้ยังสามารถทำงานเป็นทีม ผ่านเชื่อมต่อการทำงานด้วยกันได้ง่ายๆ ด้วย


2. Be Focused Pro (iOS)

หรือเรียกอีกชื่อว่า “Pomodoro Timer” แอปฯ จัดการที่ช่วยให้คุณโฟกัสกับการทำงานได้ด้วยเทคนิค Pomodoro อันโด่งดัง ที่ช่วยแบ่งเวลาการทำงานและพักเป็นช่วงๆ เพื่อรักษาการโฟกัสและแรงผลักดันในการทำงานให้สม่ำเสมอ แถมยังให้คุณได้ดูพัฒนาการการทำงานต่างๆ ด้วย


3. Dewo (iOS & Android)

แอปนี้มีผู้ช่วยคนสำคัญอย่าง AI ที่จะคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวการใช้งานเว็บไซต์หรือการใช้งานแอปฯ อื่นๆ บนหน้าจอ จากนั้นค่อยเรียนรู้ว่าช่วงเวลาไหนเหมาะกับการโฟกัสงานของผู้ใช้และช่วยจัดเวลาที่เหมาะจะเป็น Deep Work Mode ให้ผู้ใช้ ซึ่งความพิเศษของแอปฯ ตัวนี้ก็คือ ฟรี!!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย  


4. Due (iOS)

หากคุณต้องการผู้ช่วยที่จะคอยหมั่นบอกเวลา Deadline ของแต่ละงาน แอปฯ นี้เหมาะกับคุณแน่นอน ส่วนเรื่องของความนิยมไม่ต้องพูดถึง เพราะแอปฯ นี้ติดอันดับ 24 ในหมวดหมู่ Productivity ใน App Store เลยทีเดียว

โดย Due จะทำหน้าที่จดจำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นแทนคุณ แถมยังตั้ง Snooze แบบอัตโนมัติให้เลยอีกต่างหาก จนกว่ารายการนั้นๆ จะถูกเลือกว่าเสร็จแล้ว หรือ เปลี่ยนตารางเวลาใหม่ นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งเวลาในการทำงานได้ถึง 12 ช่วงเวลา และคุณไม่จำเป็นต้องสมัคร sign up เพื่อปกป้องรักษาความเป็นส่วนบุคคลของคุณ เพราะแอปฯ นี้สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้ไม่มีปัญหา


5. Forest (iOS & Android)

อีกหนึ่งแอปฯ ที่อาศัยเทคนิค Pomodoro แต่ทำให้สนุกขึ้นด้วยการทำให้เป็นเกมปลูกต้นไม้ จูงใจให้ผู้ใช้ไม่แตะอุปกรณ์มากนัก เพราะถ้าคุณออกจากแอปฯ แล้วไปทำสิ่งอื่นต้นไม้ของคุณจะตายทันที นอกจากจะช่วยคุณให้ไม่วอกแวกจากการทำงานแล้ว หากคุณปลูกต้นไม้เก็บสะสมคะแนนได้ถึงที่กำหนด คุณสามารถนำคะแนนไปแลกเป็นต้นไม้จริง ที่เขาจะปลูกให้จริงๆ อีกด้วย


6. Freedom (iOS & Android)

แอปฯ ที่จะช่วยให้คุณจดจ่อกับการทำงานได้โดยการตัดสิ่งเร้าภายในไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนจากแอปฯ อื่นๆ บล็อกคุณจากเว็บไซต์ แอปอื่นใดในระหว่างเวลาที่คุณตั้งไว้ว่าจะทำงาน


7. Minimalist (iOS)

นอกจากแอปฯ นี้จะช่วยคุณในเรื่องการจัดการสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันแล้ว ยังช่วยคุณจากสมาธิสั้นด้วย!!! วิธีแก้ของแอปฯ นี้ก็คือให้คุณตั้งโจทย์สิ่งที่จะทำทีละเล็กละน้อย แล้วค่อยๆ ทำให้เสร็จทีละอย่าง ซึ่งช่วยให้คุณช่วยจัดลำดับสิ่งที่ต้องทำ ไม่สลับไปมา อันเป็นสาเหตุของสมาธิสั้นนั่นเอง

หน้าตาของแอปก็เรียบง่าย ใช้งานไม่ยาก แถมยังมีฟังก์ชั่นเสียงเพลงจากธรรมชาติ ช่วยให้คุณมีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่มากขึ้นด้วย


8. Things 3 (iOS)

หน้าตาที่สะอาดสะอ้าน และการใช้งานง่ายคือจุดเด่นของแอปฯ นี้ หลายๆ ครั้งคุณก็คิดไม่ออกว่าจะจัดระเบียบหน้าตา To-Do List ยังไง แอปนี้จึงมีการสร้างเป็น Inbox หน้าตาคล้ายอีเมล เพื่อที่คุณจะได้โยนสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะไว้ช่องไหนมาไว้ในนี้ แถมยังช่วยคุณวางเป้าหมายระยะยาวด้วยช่อง Someday รวมถึง Anytime ที่เป็นเป้าลอยๆ ที่รีบและไม่สำคัญมากก็เอามาใส่ในนี้ 


9. Todoist (iOS & Android)

Todoist เป็นแอปฯ ที่อ้างอิงจากหลักการในหนังสือ Getting Things Done โดยคุณ David Allen ว่าด้วยเรื่องการจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพด้วยการ “จด” แทนการ “จำ” นอกจากนี้แอปฯ นี้ยังได้รับการการันตีการใช้งานที่ดีจากทั้ง Apple และ Forbes

หากคุณใช้งานแอปฯ นี้ร่วมกับทีม คุณยังสามารถกระจายงานและมอบหมายงานให้กับทีมได้โดยง่าย อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีคล้ายๆ กับ Things 3 ก็คือ Inbox ที่คุณสามารถโยนสิ่งที่ได้รับมอบหมายมาใส่ไว้ในนี้ก่อน ค่อยเอาไปลงว่าจะเข้าหมวดหมู่ไหนในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีระบบวัดผลทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ ที่เหมือนเป็นการเก็บ level ทำให้คุณรู้สึกท้าทายไปด้วย


10. Toggl (iOS & Android)

แอปฯ ที่จะช่วยคุณจัดโปรเจคงานต่างๆ ให้เป็นสัดเป็นส่วน แถมยังช่วยจับเวลาการทำงานให้คุณได้มีสมาธิในการทำงานได้มากขึ้นด้วย ความเรียบง่ายในการใช้งานเหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองจัดสรรท้ังเวลา การทำงาน และโปรเจคต่างๆ ได้แบบง่ายๆ แถมยังใช้งานแบบออฟไลน์ได้โดยไม่สะดุดด้วย


11. Trello (iOS & Android)

แอปฯ สุดท้ายที่เราแนะนำในวันนี้มีผู้ใช้งาน ณ ปัจจุบันกว่า 50 ล้านคนแล้ว เป็นแอปฯ ยอดนิยมสำหรับคนที่ทำงานเป็นทีม หน้าตาจะเป็นเหมือนกระดานที่ผู้ใช้ในทีมสามารถอัปเดตการทำงานได้เสมอ โดยหลักๆ จะแบ่งเป็น “สิ่งที่จะทำ” (To-Do) “สิ่งที่ทำอยู่” (Doing) และ “สิ่งที่ทำเสร็จแล้ว” (Done) แอปฯ นี้อาจจะไม่ได้ช่วยคุณในเรื่องการมีสมาธิกับการทำงานมากนัก แต่เอื้อกับการทำงานเป็นทีมให้ทั้งทีมได้ร่วมกันโฟกัสงานในแบบทั้งภาพกว้างและภาพลึกได้ดี 


หลังจากศึกษาไปครบทั้ง 11 แอปฯ แล้ว ลองตัดสินใจดูว่าแอปฯ ตัวไหนที่เหมาะกับการทำงานของคุณมากที่สุด แล้วลองเอาไปปรับใช้เพื่อช่วยให้คุณได้โฟกัสกับการทำงาน โดยเฉพาะงานที่สำคัญและเร่งด่วนให้ดียิ่งขึ้น 


อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจาก


เรื่อง: แพรว – ณัฐธยาน์ รุ่งรุจิไพศาล นักเขียนตัวเปี๊ยกหัวโต ผู้รักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ วิ่งไล่ผีเสื้อในทุ่งลาเวนเดอร์

Related Articles

3 Innovation Trend ที่กำลังมาและต่อจากนี้ของปี 2020

ไม่น่าเชื่อว่าหลายสิ่งที่เราเคยรู้ เคยได้ยิน วันนี้อาจจะกลายเป็นเทรนด์เก่า ไปแล้ว จากเดิม IoT (Internet of Things) ดูเหมือนจะมีความล้ำนำสมัย…

Article | Technology

AI ช่วยชีวิตคุณและแก้ไขปัญหาทางการแพทย์ได้อย่างไรบ้าง

ระบบ Inspectra (อินสเป็คทรา) ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์นี้ เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยเหลือแพทย์ตรวจจับความผิดปกติจากภาพถ่ายรังสีทรวงอก

Article | Technology